1.ไม่เปิ ดเผ ยข้อมูลทางการเงินของตัวเอง
ถ้าไม่อย ากก ดดั นตัวเองหรือเปิดโอกาสให้เพื่อนมายืมเงิน หากเขารู้ว่าคุณอยู่สุขสบาย
มีเงินทองมากมาย เขาอาจจะแวะมาเยี่ยมเยียนคุณ ทางที่ดีคุณไม่ควรเที่ยวบอกใครๆว่า
ได้เงินเดือนเท่าไหร่ มีเงินเก็บที่ไหนบ้าง มีทรัพย์สิน ห นี้สินเท่าไหร่และอย่ างไร แต่สิ่ง
คุณควรทำก็คือ ถ้าหากมีใครมาถามเรื่องการเงินของคุณ อาจจะพูดแบบกลางๆ ว่าก็พออยู่ได้
หรือ ก็พอมีพอกินเฉยๆ ไม่ต้องบอกตัวเลขโต้งๆ ว่ามีเงินสำรอง ฉุ ก เ ฉิ น ในบัญชีประมาณ
สี่ล้านบาทขนาดนั้น เพราะมันจะกลายเป็นสัญญาอย่างหนึ่งทันทีเลยว่า คำว่าเงินฉุกเฉิ นนี้
อาจหมายถึงมากพอที่จะให้เพื่อนของคุณมายืมเงินอย่ างฉุกเฉิ นได้เช่นเดียวกัน จงจำไว้
อย่ างหนึ่งว่า เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิด ญาติ มิตร หรือไกลตัวก็ตาม
ดังนั้น ถ้าไม่อย ากเจอเคสเพื่อนมายืมเงินแล้วไม่ยอมคืน ก็อย่ าด่วนปากเร็วหรือตัดสินใจเร็ว
และให้ใครยืมเงินทุกครั้ง ควรเก็บหลักฐานไว้กันตัวเองในอนาคตด้วย อย่ างเช่น อัดคลิปเสียง
หรือถ่ายวิดีโอไว้ หรือจะเป็นเซ็ นสัญญากู้ยืมเงินในทุกๆครั้งด้วย
2.แสดงออกให้ชัดเจนไปเลยว่าเราไม่ให้ยืม
วิธีรับมือเมื่อมีคนมาขอยืมเงิน วิธีแรกก็คือบอกให้ชัดๆ เปรยๆตั้งแต่ต้นไปเลยว่าไม่ให้ใครมายืมเงิน
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือญาติพี่น้อง เมื่อเราชัดเจนว่าไม่ให้ยืมเงินตั้งแต่แรก มันก็ง่ายที่จะปฏิเสธได้
โดยไม่จำเป็นต้องมีข้ออ้างหรือเหตุผลอะไร วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีวินัยในการใช้ชีวิตในระดับหนึ่ง
คือสามารถพึ่งพาตัวเองได้ และรู้จักดูแลตัวเอง เพราะถ้าเราไม่ให้ใครมายืม เราก็ไม่ควรจะไปขอ
ยืมเงินจากใคร หรือไห ว้ว านจากคนอื่นเช่นเดียวกัน
3.เสนอความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ
นอกจากจะพูดคำว่าไม่แล้ว เราสามารถช่วยเหลือคนที่มาขอยืมเงินจากเราในรูปแบบอื่นได้ อย่ างเช่น
ถ้าพวกเขาไม่มีเงินเพราะไม่มีงานทำ เราก็ช่วยหางานให้พวกเขาทำ ทำ อ า ห า รเผื่อพวกเขาบ้าง
พวกเขาจะได้ประหยัดเงินค่า อ า ห า ร หรือหาวิธีกู้เงินวิธีอื่นๆ ให้พวกเขาแทน เช่น กู้เงินจากธนาคาร
เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาขอยืมเงินเรา ถ้าไม่ได้เงินพวกเขาอาจจะไม่ได้ต้องการวิธี หรืออย ากได้
ความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ควรดูทีท่าของเขาก่อนที่เราจะให้คำแนะนำเขาด้วย
4.ขอเวลาตั ดสินใจก่อน
บางทีมันก็ย ากจริงๆ ที่จะปฎิเสธว่าให้ยืมเงินไม่ได้นะ เช่น เพื่อนสนิท ญาติ หรือคนในครอบครัว
ที่ต้องเจอหน้ากันในทุกๆวัน ถ้ารู้สึกโดนต้ อนจนจนมุมมากๆ ลองบอกว่าฉันขอฉันคิดดูก่อนนะ
เพราะการยืมเงินเป็นเรื่องที่ใหญ่ พวกเขาเองก็รู้ดี ไม่งั้นคงไม่บ ากหน้ามาขอยืมเงินจากเราหรอก
ถ้าคนมีมา รย าทจริงๆ เขาจะเข้าใจว่าคนถูกยืมมีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ยืมเช่นกัน แต่ถ้าหากคุณลองพูดว่า
ขอคิดดูก่อน นั่นก็อาจจะหมายถึง การให้ความหวังคนที่มาขอยืมนะ ดังนั้น คุณต้องบอกพวกเขา
ด้วยว่าจะขอเวลานานแค่ไหน แล้วกลับไปคิดจริงๆว่า มีเงินมากพอที่จะให้เขายืมหรือไม่ ให้ยืมได้
นานแค่ไหน แล้วถ้าเขายืมเงินไม่คืน มีผลกระทบกับความสัมพันธ์แค่ไหนด้วย
5.พูดตรงๆ และสั้นๆ
ตอนที่บอกปฏิเสธคนที่มาขอยืมเงิน ไม่ต้องอธิบายสถานะทางการเงินของคุณอะไรมากมาย เช่นว่า
ตอนนี้ฉันมีแพลนใช้เงินเรียนต่อปอโทด้านบริหารธุรกิจ ฉันจะเอาเงินไป ศั ล ย ก ร ร ม ที่เกาหลี บลาๆ
ถ้าไม่ให้ก็คือไม่ให้ คนยืมเงินเขาอย ากได้แค่เงิน ถ้าเขาไม่ได้เงินก็ไม่จำเป็นต้องไปอธิบายอะไรทั้งนั้น
แต่ถ้ากลัวว่าบทสนทนาจะตั ดร อนกันเกินไป ลองปฏิเสธแบบสุภาพแบบนี้ดูว่า ฉันไม่มีเงินพอให้ใคร
ยืมได้เลยในช่วงนี้ / ฉันไม่ค่อยสบายใจเรื่องการให้ยืมเงินน่ะ/ ขอโทษนะ แต่ฉันให้ยืมไม่ได้จริงๆ
ประโยคเหล่านี้ตรงไปตรงมา แต่ไม่ ห ย า บ ไม่ห้ วน ไม่ตัดรอนจนเกินไป และไม่ได้เปิดช่องให้คน
มาขอยืมเงินได้อีกด้วย ในอนาคตให้จำไว้เสมอว่ามันเป็นเงินของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องไปอธิบายสถานะ
หรือวิธีการใช้เงินของคุณกับใคร โดยเฉพาะคนที่จะยืมเงินของคุณ
6.ให้ยืมแบบไม่หวังได้คืน
ถ้าจนแล้วจนรอด ยังไงก็รู้สึกว่าคนนี้เราต้องช่วยเหลือเขาจริงๆ ไม่ให้ไม่ได้จริงๆ ลองหาวิธีให้ในแบบ
ที่เราคิดไปเลยว่า ให้เงินเป็นของขวัญไปเลย เช่น ใกล้วันเกิดของเขาในอีกไม่กี่วัน ก็ให้เงินเขาไปเลย
แล้วก็บอกไปเลยว่า งั้นฉันให้เป็นของขวัญวันเกิดเลยแล้วกันนะ หรืออาจจะให้เป็นบัตรของขวัญวอยส์เชอร์
ซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตแทน พวกเขาจะได้เก็บเงินไปใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ที่จำเป็นมากกว่าแทน
ขอบคุณ s h o p b a c k
