
1.มีทัศนคติเชิงลบ
หากเจอลูกน้องที่ที่ชอบมองโลกในแง่ร้ า ยก็แ ย่หน่อย
เพราะทัศนคติเชิงลบแบบนี้จะสะท้อนออกมาทางพฤติ
ก รร ม หรือความคิดที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ คุณอาจ
จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม แต่คนรอบข้างของคุณตั้งแต่
เจ้านาย หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานรับรู้ได้ถึงรังสีดำมืด
ของคุณ แบบนี้ใครอยู่ใกล้ก็ไม่ปลื้มแน่ ๆ และที่สำคัญ
บางทีทัศนคติเชิงลบของคนคนเดียว อาจส่งผลไปถึง
สภาพจิตใจของคนทำงานคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ให้กลาย
เป็นลบตามไปด้วย แบบนี้จะพาให้หัวหน้าปวดหัวไป
กันใหญ่ ลองสำรวจตัวเองว่าเป็นคนที่มีทัศนคติเชิงลบ
อยู่หรือไม่ ถ้าคุณมีทัศนคติเชิงลบรีบปรับตัวเองให้เป็น
คนคิดบวกจะดีกว่านะ
2.ไม่ทุ่มเทให้กับงาน
ลูกน้องที่หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ทำนั่นนิดนี่หน่อยก็บ่นแล้ว
บ่นอีก แบบนี้เชื่อว่าไม่มีหัวหน้าคนไหนปลื้มแน่ ๆ และ
เชื่อว่าไม่ใช่แค่หัวหน้า เพราะเพื่อนร่วมงานเองก็จะรู้สึก
ว่าคนแบบนี้เป็นคนที่เอาเปรียบคนอื่น เพราะในขณะที่
เพื่อนร่วมงานทำงานอย่ างจริงจัง แต่กลับต้องมาเจอ
คนไม่รับผิดชอบขาดความทุ่มเทแบบนี้อีก
3.ลูกน้องก้าวร้าว
บางคนชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนตรงไปตรงมา ฉะฉาน
แต่อย่ าลืมนะว่าคนอื่นเขาแยกออกระหว่างคนพูดจาตรง
กับคนก้าวร้าว ยิ่งเป็นคนระดับหัวหน้าด้วยแล้ว หากเจอ
ลูกน้องก้าวร้าว ก็ย ากที่จะไว้ใจให้ทำงานด้วย ถ้ารู้ตัวว่า
ตัวเองเริ่มมีพฤติก ร ร มก้าวร้าว แนะนำให้ปรับเปลี่ยนตัว
เองใหม่ เพราะถ้ายังก้าวร้าวแบบนี้ต่อไปเกรงว่าความก้าว
หน้าในการทำงานของคุณอาจจะไปได้ช้า
4.มั่นใจตนเอง ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
จริง ๆ การมั่นใจในความคิดของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ดีนะ
แต่ต้องมีในระดับที่พอเหมาะ เพราะถ้ามันมากเกินไป
คิดอะไรก็มั่นใจสุดโต่ง พอมีคนขัดขึ้นมานิดหน่อยก็จะ
ชักสีหน้ามีอาการไม่พอใจอย่ างเห็นได้ชัด แบบนี้ไม่ดี
แน่ เพราะลูกน้องแบบนี้ควบคุมย าก และที่สำคัญทำงาน
กับคนอื่นลำบาก ทางที่ดีนั้น อย่ าทำให้หัวหน้าลำบาก
ใจโดยการทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว มั่นใจจนไม่รับฟังความ
คิดของคนอื่นเลย
5.ชอบพูดลับหลัง
เชื่อว่าไม่มีใครอย ากถูกพูดจาลับหลังหรอก โดยเฉพาะ
ในสังคมการทำงานที่ถือว่าทุกคนนั้นเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว
ฉะนั้น รู้ไว้เลยว่าหัวหน้าไม่ปลื้มแน่ถ้ารู้ว่าลูกน้องตัวเอง
กำลังจับกลุ่มนินทาพูดจาลับหลังกันอยู่ เพราะมันดูไม่มือ
อาชีพเอาเสียเลย
6.ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้
แบบนี้บอกได้เลยว่าเป็นที่น่าหนักใจของหัวหน้าสุด ๆ
เพราะลูกน้องที่ดีจะต้องรู้จักการแก้ปัญหามีการตัดสินใจ
ที่เฉียบคม ไม่ใช่เอะอะก็ไม่กล้า เอะอะก็รอหัวหน้าก่อน
ดังนั้น มั่นใจและเชื่อมือตัวเองหน่อยเขาจ้างเรามาแล้ว
แสดงว่าเขาเปิดโอกาสให้เราได้คิดได้ตัดสินใจอยู่พอ
สมควร ฉะนั้น ใส่ความมั่นใจให้กับตัวเองแล้วคิดตัดสิน
ใจให้เฉียบคมไปเลย ถ้าตัดสินใจผิดก็อย่ าเพิ่งรู้สึกแ ย่
มันคือบทเรียน และประสบการณ์ที่ทำให้เราสามารถแก้
ปัญหาและก้าวหน้าไปได้อีกขั้น
7.ขิ้หงุดหงิด
เราเคยอยู่ใกล้ ๆ คนขี้หงุดหงิดใช่ไหม แล้วเป็นอย่ างไร
เราหงุดหงิดไปด้วยใช่รึเปล่า นั่นแหละสิ่งที่เรากำลังจะ
บอก ก็คือคนขี้หงุดหงิดอยู่ที่ไหนก็มักจะทำบรรย ากาศ
ที่นั่นเสียตามไปด้วย แบบนี้หัวหน้าไม่ปลื้มหรอกที่จะปล่อย
ให้คน ๆ เดียวทำบรรยากาศออฟฟิศเสี ย
8.บ่นเรื่องงานตลอดเวลา
เคยเจอไหมประเภทที่ว่าบ่นตั้งแต่เดินเข้ามาในออฟฟิศ
จนกระทั่งถึงตอนกลับบ้าน บ่นทุกสิ่งทุกอย่ างที่ขวางหน้า
แบบนี้หัวหน้าจะไว้ใจมอบหมายงานให้คุณทำได้อย่ างไร
อย่ าให้หัวหน้าต้องมานั่งระแวงเลยว่าถ้าให้งานนี้ไปเขา
จะบ่นมากกว่าที่จะนั่งคิดโปรเจคงาน หรือทำงานให้สำเร็จ
เป็นชิ้นเป็นอันหรือเปล่า เพราะหน้าที่คุณคือต้องมาแก้ปัญ
หาเรื่องงาน ไม่ใช่มาบ่นทุกอย่ างจนไม่เป็นอันทำงาน
9.คิดว่าตัวเองถูกเสมอ
หากดจอลูกน้องแบบนี้ หัวหน้าจะปวดหัวเอานะ แถมยัง
ทำให้เพื่อนร่วมงาน ไม่อยา กทำงานด้วยอีกต่างหาก
เพราะมันดูเหมือนว่าคุณจะไม่ยอบรับข้อผิดพลาดใด ๆ
เอาเสี ยเลย หนำซ้ำบางทียังจะโยนความผิดไปให้คน
อื่นอีกแล้วแบบนี้ใครจะกล้าทำงานด้วยล่ะ ฉะนั้น หัดยอม
รับความผิดพลาดเสี ยบ้าง บางทีคุณอาจจะกลายเป็นฮีโร่
ก็ได้ บางทีเราทำงานจนชินกับรูปแบบงานชินกับเพื่อน
ร่วมงาน ชินกับหัวหน้าจนทำให้เราลืมว่าเราเผลอแสดง
กิริย าไม่น่ารักออกไปบ้างหรือไม่
10.พูดจาประชดประชัน
สังคมคนทำงานคือสังคมของคนมีความรู้ความสามารถ
มีการศึกษา ดังนั้นการพูดจาประชดประชันจึงไม่น่าจะเกิด
ขึ้นเลยในที่ทำงาน ทางที่ดีถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณมีนิสัยดังกล่าว
ก็ควรตั้งสติ คิดก่อนพูดเสมอจะได้ไม่เผลอประชดประชันใคร