
1. จากพฤติก ร ร มการใช้เงิน
เมื่อเรารู้แล้วว่าค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของเรานั้นหมดไปกับอะไร
เราก็ค่อยๆแก้ปัญหาโดยการปรับลดของที่ไม่จำเป็นบางอย่าง
ลง เช่นจะต้องกินกาแฟในทุกวันวันละ 2-3 แก้ว ก็เปลี่ยนเป็น
ดื่มวันละแก้วพอ หรือนานๆครั้ง หรือถ้าจะให้ดีถ้าที่ทำงานมี
น้ำร้อน ก็ซื้ อกาแฟมาชงกินเองก็ได้ เราลองมาคำนวนเล่นๆ
กันว่า ปกติกินกาแฟ 2 แก้วต่อวัน เฉลี่ยวันละ 80 บาท ทั้งหมด
24 วันทำงานรวมเป็นเงิน 1,920 บาทแล้วหากเราลดลงเป็น
กินแค่วันละแก้ว ก็ประหยัดไปได้ถึง 960 บาทต่อเดือนเลยนะ
2. ไม่รู้จักควบคุมความ อ ย า กของตัวเอง
เพราะความอย ากของคนเราไม่มีที่สิ้นสุด จึงทำให้เรามีเงิน
ไม่พอใช้นั่นเอง เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณอย ากได้อะไรสัก
อ ย่างคุณก็จะซื้อโดยที่ไม่ได้คิดให้ดีๆก่อน และการที่คุณ
ซื้อโดยใช้เงินสำหรับกินประจำวันที่มีอยู่ หรือเงินที่หยิบยืม
คนอื่นมา ซึ่งไม่ใช่เงินเก็บหรือเงินออมคุณตัวเอง มันก็จะทำ
ให้คุณไม่มีเงินพอใช้แน่นอน และคุณอาจจะต้องไปหายื ม
คนนั้นคนนี้เพื่อเอามากินมาใช้ แล้วพอถึงเดือนถัดไปก็ต้อง
ใช้คืนเค้า ทำให้ในเดือนถัดไปนั้นเงินไม่พอใช้อีก เป็นแบบนี้
ไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น ใช้เงินที่หยิบยืมมาซื้อที่ของที่อย ากได้
หรือรูดบัตรเครดิตเพื่อนำมาซื้อของที่อย ากได้ ถ้าคุณอย าก
มีอนาคตที่ดีพย ายามควบคุมการใช้จ่าย อย่ าใช้เงินเกินตัว
มีแค่ไหนใช้แค่นั้น ถ้าอย ากได้อะไรจริงๆให้คิดให้รอบคอบ
ก่อนว่าถ้าได้มาแล้วมันมประโยชน์อย่ างไร คุ้มหรือไม่ที่จะซื้ อ
ที่สำคัญดูกำลังทรัพย์ของเราในขณะนั้นด้วยว่าพอได้มาแล้ว
เราจะมีพอกิน พอใช้ และพอเก็บมั้ย ไม่อย่ างนั้นคุณก็อาจจะ
เป็นคนที่ล้มเหลวด้านการเงินตลอดชีวิตแน่นอน
3. ใช้บัตรเครดิตและชอบยืมเงินคนอื่น
เวลาอย ากได้อะไร หรือใช้จ่ายอะไร พย ายามใช้เงินสดนะ
หรือบางคนเถียงว่าไม่ใช้ไม่ได้เพราะต้องทำธุรกรรมทางการ
เงินบนอินเตอร์เน็ต เพราะเดี๋ยวนี้โลกมันไปไกลแล้ว การมี
บัตรเดบิตที่จ่ายบนอินเตอร์เน็ตได้แล้วนั้นมันจึงสะดวกมาก
ขึ้น แต่ใครที่จะใช้บัตรเครดิตก็ขอให้รูดแล้วจ่ายให้หมดใน
ครั้งเดียว อย่ าดอง อย่าผ่ อ น ศูนย์เปอร์เซ็น ก็ไม่ต้องใช้
พย ายามเก็บเงินแล้วใช้เป็นเงินสดแทน พย ายามอย่ าใช้
บัตรและหยิบยืมคนอื่น ควรใช้เท่าที่ตนมีนะ