1.ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น ไม่ว่าจะเป็นซ่ อมของที่ชำรุด
รับมือกับสถานการณ์อึดอัด เป็นทักษะติดตัวที่แสดงถึงการ
มีไหวพริบของเด็ ก เด็ กคนไหนที่มีทักษะนี้แน่นอนว่าจะ
สามารถเอาตัวรอดก่อนเพื่อน ๆ ได้อย่ างแน่นอน อย่ าง
เช่นเมื่อเขาเจอปัญหา เขาจะคิดว่าเขาต้องทำอย่ างไรดี
ทางที่ดีนั้น คุณพ่อคุณแม่ลองช่วยลูกในการฝึกทักษะนี้
ได้ง่าย ๆ ลองให้ลูกจินตนาการดู หรือจะจำลองเป็นเกม
ก็สนุกไม่แพ้กัน อาจะเริ่มจากอะไรง่าย ๆก่อนก็ได้ เช่น
เป็นคำถามชวนคิด ถ้าวันนี้เขาลืมนำการบ้านมาส่งครู
เขาจะต้องแก้ปัญหาอย่ างไร อาจจะขอโทรหาคุณพ่อ
คุณแม่ให้นำมาให้มั้ย หรืออาจจะขอเลื่อนส่ง หรือจะคุย
กับครูบอกครูไปตรง ๆ ดีมั้ยนะ เป็นต้น
2.สอนลูกว่าเมื่อมีอะไรให้บอกพ่อแม่ได้ทุกอย่ าง
กุญแจสำคัญในการเอาตัวรอดในยุคนี้ของเด็ กๆ นั่นก็คือ
การเปิดใจพูดคุยกันในครอบครัว พ่อแม่ลูกต้องสามารถ
บอกเล่า กล้าพูดกล้าแสดงออกในสิ่งที่เผชิญมา หรือสิ่ง
ที่อึดอัดใจต่อกันได้ แต่ลูกของเราจะไปจุดนั้นได้แน่นอน
ว่าความสัมพันธ์ ความใกล้ชิดสนิทสนมของคนในครอบ
ครัวเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ลองนึกภาพตามดูนะว่า
หากลูกต้องเจอเพื่อนแก ล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ด้วยความ
ที่กลัวพ่อแม่ดุซ้ำ ด้วยมุมมองของเด็ กนั้นอาจจะคิดว่า
เค้าเป็นฝ่ายผิด ยอมให้เพื่อนแกล้งต่อดีกว่า เขาจึงไม่
กล้าที่จะเล่าให้พ่อแม่ฟังนั่นเอง เห็นมั้ยว่าเพราะเช่นนี้
ปัญหาจึงเกิด แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราสนิทกัน เป็นทั้ง
พ่อแม่ เป็นทั้งพี่น้อง เพื่อนและที่ปรึกษาลูกก็จะเต็มใจ
และยินดีที่จะ แ ช ร์ เรื่องราวในชีวิตให้คุณพ่อคุณแม่ฟังอย่ างแน่นอน
3.ต้องปรับตัวเป็น เข้าสังคมได้
อย่ าลืมว่าเมื่อยิ่งโตขึ้น สังคมของเราก็ยิ่งกว้างตามไปด้วย
ลูกเราเองก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงเรียน การทำ
กิจกร รมต่าง ๆ นอกโรงเรียน การไปเรียนที่สถาบันกวดวิชา
คุณพ่อคุณแม่ต้องเลี้ยงลูกให้รู้จักความยืดหยุ่น ให้เค้ารับรู้
ว่าโลกข้างนอกนั้น มีผู้คนมากมาย อยู่หลากหลายรูปแบบ
ไม่มีใครที่เราชอบหรือชอบเราตลอดเวลา เราต้องเข็มแข็ง
พร้อมปรับตัวให้เป็นมิตรกับคนอื่นเสมอ มองโลกในแง่ดี
แต่ก็อย่ าดีจนเกินไป ถ้าอยู่ตรงไหนแล้วรู้สึกไม่ดี รู้สึกอึดอัด
ก็ลองถอยออกมาก่อน ในตอนนี้พวกเขาอาจจะยังไม่ค่อย
เข้าใจว่ามันคืออะไร ลองพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ถามเค้าว่าวัน
นี้เป็นยังไงบ้าง สนุกไหม ลองคุยกับคุณครูของลูกดู ปรึกษา
เพื่อน ๆ แม่ ๆ ดูบ้าง แลกเปลี่ยนกันและกัน แล้วเราจะได้รู้จัก
ลูกในมุมที่ห่างอกเรามากขึ้น
4.ต้องทันสถานการณ์ฉุ กเ ฉิ น
ไม่ว่าจะเป็นภั ยพิบั ติ น้ำท่ ว ม ไฟไห ม้ แผ่นดินไห ว หรือ
โดน ทำร้ ายร่ างก าย จริง ๆ แล้วโอกาสที่จะเกิดอาจจะมีแค่
เล็กน้อย แต่การเตรียมตัวลูกให้พร้อมรับ และสามารถเอาตัว
รอดทุกสถานการณได้นั้น ก็ทำให้ลูกของเราแกร่งกล้ามากขึ้น
และได้เปรียบเด็ ก ๆ ในวัยเดียวกันด้วย เราสามารถสอนลูก ๆ
ได้ล่วงหน้าไว้เลย ว่าลูกควรทำตัวอย่ างไรเมื่อเกิดเห ตุก ารณ์
ต่าง ๆ เช่น ถ้าเกิดพลั ดหล งกับคุณพ่อคุณแม่ให้ทำยังไงดี
อาจจะให้น้อง ๆ ลองมองหาคนที่น่าจะช่วยเหลือได้ และสอน
ลูกให้จำทาง เพื่อที่จะสามารถเดินทางกลับบ้านด้วยตนเองได้
