Home ข้อคิดเตือนใจ แม้เราเรียนจบอะไรมา คงไม่สำคัญเท่ากับการเอาตัวรอด หาเลี้ยงตัวเองได้หรอก

แม้เราเรียนจบอะไรมา คงไม่สำคัญเท่ากับการเอาตัวรอด หาเลี้ยงตัวเองได้หรอก

0 second read
0

เคยมีคนตั้งคำถามไว้ว่า …จะเรียนไปทำไม ถ้าสุดท้ายก็ได้งานที่ไม่ตรงสาย

งานที่น้อยคนจะรู้จัก เงินเดือนที่ไม่ได้มากมายอะไร คำถามนี้จะได้คำตอบที่

ทำให้เราต้องกลุ้ มใจกันเลยทีเดียว เพราะมันเต็มไปด้วยความคาดหวังที่คิดว่า

“ คนเรานั้นมีทางเลือกอยู่เพียงไม่กี่อย่ างในชีวิต ” แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็นความคิด

ก็จะได้ “ ฉันทำงานอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะตรงสาย หรือไม่ตรงตามสายก็ตาม ”

มันอาจดูเป็นประโยคของคนขิ้ แ พ้ ในสายตาบางคน แต่ถ้าคิดดูแล้วมันก็ได้

ความสบายใจเยอะกว่าการตั้งคำถามแบบแรก เพราะความเป็นจริงของชีวิต คือ

1. สิ่งที่เรา “เก่ง” ไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบวิช าชี พเสมอไป

เช่น จะต้องเป็นหมอ เป็นวิ ศ ว ก ร เป็นพย าบ าลเท่านั้น

บางทีมันอ าจออกมาเป็นพรสวร รค์ก็ได้ เป็นความรู้อะไร

ก็ได้ที่เราเอาจริงกับมัน เช่น การทำอ าหาร การออกแบบ

การจัดสวน ไม่อย่ างนั้นเราคงไม่เห็นนักธุรกิจหน้าใหม่ๆ

หลายคน ผุดขึ้นเป็นด อกเห็ดหรอก ทุกความรู้ที่เราได้รับ

มันไม่เคยสู ญเปล่า แค่เรามองไม่เห็นค่ามันเอง ลองนึกดู

2. มนุ ษย์ทุกคนมีความสามารถในตัวเองแต กต่างกันไป

คนเราไม่จำเป็นว่าจะต้องเก่งเหมือนกันหมด แม้แต่ใน

คนๆเดียวกัน ก็ยังมีความสามารถที่หลากหลายได้เลย

เช่น เป็นวิศวะกร แต่ก็เล่นดนตรีเก่ง ทำอ าห า รเก่งอีก

เป็นศิลปิน แต่ก็คำนวณเก่ง แม้ในครั้งหนึ่งที่เราไม่เห็น

ว่ามันจะใช้ประโยชน์ ได้จริง แต่พอเราโตขึ้นอีกหน่อย

มันก็ต้องมีบ้างที่เรานึกอะไรขึ้นมา จนต้องไปหามาอ่ าน

ปัดฝุ่นตำรานั้นมาใช้อีกครั้ง

3. สิ่งที่เราเรียนมาเป็นสิบเป็นร้อย มันคือการหล่ อห ล อ ม

เพราะหลายๆวิชาไม่ได้สอนเราทางตรง แต่ให้เราค่อยๆ

ซึมซับข้อดีแต่ละอย่ างไปเอง เช่น ฝึกความอดทน ฝึก

ความประณีต ฝึกทักษะการเข้าสังคม เป็นต้น

4. มนุษย์เราควรมีทางเลือกให้กับชีวิตไว้หลายด้าน

หรือที่เรียกว่ามีแผนสำรองนั่นเอง เพื่อไม่เป็นการปิ ดกั้ น

ตัวเองจนเกินไป เช่น ถ้าวุฒิที่เราเรียนมามันหางานย าก

คุณจะยอมรึเปล่าที่เอาวุฒิต่ำกว่านี้หางานไปก่อน ถ้าคุณ

ไม่ได้อาชีพนี้ เรายอมได้รึเปล่าที่จะทำอาชี พอื่นไปพลางๆ

ก่อน ความฝัน สิ่งที่ใช่ มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ได้ดั่งใจในทันที

5.คนเราสามารถหาความรู้เพิ่มได้ นอกจากแค่ที่โรงเรียน

ในรั้วโรงเรียน ต่อให้เราได้เรียนกับอ าจารย์ที่เก่งแค่ไหน

ขอบเขตความรู้มันก็เป็นเพียงความรู้ในรั้วเท่านั้น และโลก

ของวัยผู้ใหญ่ที่โตขึ้น เรายังต้องได้เรียนรู้ ได้เห็นอีกมาก

มาย ได้เรียนรู้กันอีกย าวๆ ลองผิดลองถูกกันอีกเยอะเลย

ดังนั้น จะมาฟั นธงว่าเรียนมาสายวิ ท ย์ก็ต้องทำงานแค่ใน

สายวิทย์เท่านั้น เรียนสายภาษาต้องทำงานแค่ในสายภาษา

นะมันก็ไม่ถูกเสมอไป จริงๆมันเป็นเรื่องธรรมดามาก ที่ต้อง

แลกกับความเหนื่ อย ความพย าย ามหลายเท่าตัว และจึง

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะพบว่า หมอบางคนแต่งเพลงได้

บางคนเรียนวิชาชีพแต่มาเป็นศิลปิน บางคนเรียนไม่จบแต่

ประสบความสำเร็จ

“ ความรู้ ” เราได้รับมาถึงจะไม่ได้ใช้ในทันที ก็ไม่ควรเสี ยด าย

ขึ้นชื่อว่า “ ความฝัน ” ถึงจะยังไม่ใช่ในวันนี้ ใช่ว่าวันหน้าจะเป็นไปไม่ได้

มันอยู่ที่ตัวเราล้วนๆ ว่า “ รู้ตัวดีหรือไม่ ว่าทำอะไรอยู่ ” และ

“ พร้อมจะยื ดหยุ่ นกับทุกสถ านการณ์ชีวิตรึเปล่า ”

อย่ าลืมว่าโล กเรากลม และมีหลายมิติ ใช่ว่าจะต้องมองเพียงด้ านเดียว…

Load More Related Articles
Load More By kondee
Load More In ข้อคิดเตือนใจ

Check Also

ขอฝากถึงลูกๆทุกคน เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ต้องเดินทางไกล

ลองคิดดูนะว่า…การที่เราได้เกิดมาลืมต าดูโลกนั้น ค … …