Home ข้อคิดเตือนใจ คนเราเมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน แม้ไม่อยากจาก ยังไงก็ต้องจากกันอยู่ดี

คนเราเมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน แม้ไม่อยากจาก ยังไงก็ต้องจากกันอยู่ดี

0 second read
0

วันนี้เรามีบทความดีๆ เพื่อมาเตือนใจ สำหรับคนที่ยังมีความรักที่ดี จงหมั่นสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันไว้ให้มากๆ

บางทีความรักก็เหมือนกับการชดใช้ ก ร ร ม ร่วมกัน เพราะใช่ว่าความรักนั้นจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป

บางคู่ แรก ๆ ก็รักกันดี แต่พอมีปัญหาก็กลายเป็นว่าไม่ถูกชะตากันไปเลย กลายเป็นคู่ แ ค้ น คู่ อ า ฆ า ตกันไป

ซะอย่ างนั้น ทั้ง ๆที่เคยรักกันดี เพราะว่าเมื่อถึงเวลาคนเราก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี ต่อให้เราไม่อย ากจาก แต่ถ้า

ความรู้สึกมันไม่ได้ ทุกอย่ างมีแต่ทางตันไปไหนต่อไม่ได้ก็ต้องยอมรับมันอยู่ดี ให้คิดเสี ยว่าการเลิกราจากกัน

ไปนั้น เราทั้งคู่ได้หมดเวรหมดกร รมต่อกันแล้ว จะได้ไม่ต้องผูกพันต่อกันหรือต้องมามีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป

บางคู่ในช่วงเวลาที่ยังรักกันนั้นอยู่ แทนที่จะมีความสุขกันกลับมีแต่ปัญหา มีแต่ความทุ กข์ใจ เรียกว่าเป็นความรัก

ที่มีแต่กร รมร่วมกัน เพราะฉะนั้น หากคนเราหมดเวรหมดกร รมต่อกันแล้ว สุดท้ายยังไงซะ ก็ต้องเลิกรากันไปอยู่ดี

อาจเพราะหลายอย่ างที่มาเป็นส่วนเสริม เช่น ความไม่เข้าใจกัน การนอกใจ หรือเข้ากันไม่ได้ ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุ

ให้คู่รักหลายคู่เลิกกันไป และสุดท้ายก็ แ ย ก ย้ า ยกันไปตามทางใครทางมัน เหมือนเป็นการจบสิ้นเวรก ร ร มที่มี

ต่อกันในชาตินี้ ว่ากันว่า…ที่คนเราได้เจอกันนั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่ างใด แต่เป็นเพราะบุญกร รมที่เราได้ทำ

ร่วมกันไว้แต่ชาติปางก่อน แต่ก็มีเหตุที่ต้องทำให้เราพร ากจากกันไป และเรื่องที่จำนำมาฝากให้ได่อ่านในวันนี้คือ

เรื่องมันมีอยูว่า….

มีชายหญิงอยู่คู่หนึ่ง ทั้งคู่รักกันมาก คบกันมา 3 ปี แล้วก็ตกลงที่จะแต่งงานกัน

กำหนดวันงานไว้เรียบร้อย ตัวฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะได้แต่งงานกับอีกฝ่าย

เวลาต่อมาได้ไม่นาน…ฝ่ายชายได้รู้ข่าวว่าคู่รักของตนจะต้องแต่งงานกับชายอื่น

อย่ างกะทันหัน และตัวฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจด้วย ไม่ได้ถูกบังคับใจแต่อย่ างใด

เขาทั้ง งงและเสี ยใจมาก ทำไรไม่ถูก ไม่รู้จะไปต่อยังไง เขาเอาแต่ร้องไห้เสี ยใจ

กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงแต่เรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก และเววลาต่อมาเขาก็ได้

ป่ ว ย หนักเพราะตรอมใจ พอเวลาผ่านไป…ฝ่ายชายยิ่งอาการท รุ ดลงไปอีกเรื่อย ๆ

ไปหา ห ม อ เท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นเลย และก็มีหลวงตารูปหนึ่งผ่านมาเห็น เมื่อท่านมาถึง

หลวงตาก็หยุดอยู่ที่หน้าบ้านของชายคนนั้นแล้วมองเข้าไปในบ้าน แล้วจึงเคาะประตู

เด็ กรับใช้ก็ออกมาเปิดประตูเพื่อดูว่าใครมา หลังจากเปิดประตูก็พบว่าเป็นพระท่านหนึ่ง

เขาจึงพูดว่า ไม่ทำบุญหรอก นิมนต์ไปข้างหน้าเจ้าค่ะ หลวงตาได้ยินก็ยิ้มอย่ างมีเมตตา

และพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาตหรอกโยม ในบ้านมีคนป่ ว ยใช่ไหม อาตมาพอมี

ความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย อาจจะพอช่วยได้นะ เด็ กรับใช้ได้ฟังแล้วก็อึ้งไป

แล้วก็ได้บอกพระท่านว่า เดี๋ยวต้องไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านแล้ว

ถามเจ้านาย เจ้านายก็ตอบอย่ างตัดรำคาญว่า ถ้าเขาอย ากเข้ามา ก็ให้เข้ามาเลย !!

เมื่อหลวงตาเข้าไปที่ห้องนอน จึงพบว่าชายเจ้าของบ้านนอนอย่ างหมดอ าลั ย ต า ย

อยาก สีหน้าซี ดเซี ยว ร่ า ง ก า ย ก็ซูบผอม ประหนึ่งครึ่งคนครึ่ง ศ พ เด็ กรับใช้จึงได้

นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายผู้นั้น หลวงตาได้ยิ้มและ

พูดว่า อาการหนักเลยนะเรา ชายคนนั้นก็เงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด หลวงตาตรวจ

อาการพอเป็นพิธีจึงกล่าวว่า โ ท ร มมากเลยนะ ชายคนนั้นก็ยังไม่สนใจหลวงตาอีกอยู่ดี

หลวงตาก็บอกอีกว่า ถ้าไม่เชื่อก็ลองมองที่กระจกดูสิ ชายคนนั้นก็ยังไม่สนใจแต่หางตา

ก็แอบแลไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน เขามองเห็นภาพของคนรักในนั้น ไม่นานภาพ

ของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเลที่แห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มี

ผู้คนผ่านไปมาเลย ขณะที่ชายคนที่ป่ ว ย มองภาพในกระจกด้วยความสนใจจึงพบว่ามี

ศ พ หญิงสาวนอน เ ป ลื อ ย ก าย อยู่ที่ริมชายหาด พอเวลาผ่านไปสักพัก ก็มีชายคนหนึ่ง

ได้เดินผ่านเข้ามา เขามองเห็น ศ พ หญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ จึงเดินผ่านไปอย่ างรวดเร็ว

ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขามองเห็น ศ พ เขารู้สึก ส ง ส า ร จึงถอ ดเสื้อคลุม

ด้านนอกนอกออกมาคลุมร่ างให้หญิงสาวคนนั้น แล้วก็เดินจากไป พอพักใหญ่ ๆ อีกเช่นเคย

ก็มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่จึงเปิดดูเมื่อพบว่าเป็น ศ พ ด้วยใจที่ส ง

ส า ร เขาจึงอย ากฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือที่จะขุด เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้งสองข้าง

ของเขาค่อย ๆกอบทรายขึ้นมาเขาทำแบบนี้เรื่อยๆจนถึงเย็น ๆ พอได้ห ลุมใหญ่พอสมควร

เขาจึงได้ ฝั ง ศ พ ผู้หญิงคนนั้นแล้วก็จากไป จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศ พ

หญิงคนนั้น และค่อย ๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงอดีตคนรักของเขา เขาได้เห็นดังนั้นก็ต กใจ

อยู่ครู่หนึ่ง กระจกก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไปเหลือแต่เงาของตนเอง

ในกระจกขณะนั้น หลวงตาพูดขึ้นว่า ทีนี้โยมเข้าใจหรือยังว่า ศ พ นั้นคือคู่รักของโยมในอดีต

ชายคนที่ช่วยฝัง ศ พ เธอผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยได้แต่งงานกับเขา ส่วนโยม

ช่วยคลุม ศ พเธอ โยมจึงผูกวาสนาต่อเธอแค่ 3 ปี ตอนนี้พอครบสามปี วาสนาสิ้นต่อแล้วก็ต้อง

จากกัน เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอัก เ ลื อ ด ออกมา เด็ กรับใช้ก็ตกใจ หลวงตายิ้ มแล้วพูดว่า

โยมรอ ดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอัก เ ลื อ ด เ อ า เ ลื อ ด เสี ยออกมาแล้วนะ เเละต่อมาไม่นาน

ชายคนนั้นก็ได้ออกบวชและติดตามหลวงตารูปนั้นในที่สุด…

เพราะคนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนคนรัก ฯ ล ฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้องใดๆ ถึงเวลาก็มาเจอกัน แต่หากสิ้นวาสนาคงต้องจากกันรั้งยังไงก็ไม่อยู่ ในตอนที่

ยังอยู่ด้วยกันคุณทำดีต่อคนรอบข้างของคุณหรือยังเพราะถึงเวลาที่ต้องจากกันไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า

ก็เรียกมันกลับคืน มาไม่ได้ทำดี ต่อ กันไว้เถิดเพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะต้องจากกันตอนไหน

เมื่อสิ้นวาสนาต่อกัน ต่อให้รักกัน มากแค่ไหนก็ต้องจากกันอยู่ดี….

ไม่มีใครอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิตหรอก จะอย ากจากหรือไม่ก็ต้องจาก เพราะการจากลาคือความจริงของชีวิต

ที่ต้องยอมรับให้ได้ คนเคยกอดกัน รักกัน มากแค่ไหนซักวันก็ต้องจากหายไป คนเรานั้นไม่รู้หรอกว่าจะอยู่ด้วยกัน

ได้ถึงวันไหน เพราะไม่มีใครสามารถล่วงรู้เหตุการณ์อนาคตได้ ชีวิตคู่ของคนสองคนก็เหมือนกับเส้นด้ายบางๆที่

ไม่รู้ว่าจะขาดออกจากกันวันไหน เพราะบางทีเราก็ทำให้มันขา ดไวขึ้นด้วยตัวของเราเอง เพราะฉะนั้นในช่วงที่คุณ

ยังรักกันอยู่ หากอะไรที่ยอมๆกันได้ก็ยอมกันไปเถอะ อย่ าท ะเล าะหรือทำให้ต่างฝ่ายต้องมานั่งเสี ยใจเลย เพราะ

คู่รักบางคู่เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้กลับไปง้อคนที่เขารัก อย่ าให้ความทรงจำสุดท้ายในชีวิตของพวกคุณคือการที่คุณ

สองคนต้องมานั่งท ะเ ล าะกัน และเสี ยน้ำตาให้กันอีกเลย

Load More Related Articles
Load More By kondee
Load More In ข้อคิดเตือนใจ

Check Also

ขอฝากถึงลูกๆทุกคน เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ต้องเดินทางไกล

ลองคิดดูนะว่า…การที่เราได้เกิดมาลืมต าดูโลกนั้น ค … …