
1.เอาของที่ลูกลืมไปให้ลูกถึงโรงเรียน
การที่ลูกโทรมาเพื่อบอกให้คุณพ่อคุณแม่นำเอาสิ่งของที่ลืม
ไปส่งให้เขาที่โรงเรียนนั้น โดยที่คุณก็ทำตามที่ลูกสั่งทุกครั้ง
ซึ่งนั่นอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็ กที่ไม่รอบคอบได้ ดังนั้นแล้ว
เมื่อลูกโทรมาเพื่อให้คุณทำแบบนั้นอีก โดยที่ของชิ้นนั้นมันก็
ไม่ได้มีความสำคัญหรือจำเป็นอะไรมากมาย ก็ควรบอกปัดไป
เพื่อให้ลูกมีความรอบคอบมากขึ้น และตรวจความเรียบร้อย
ของสิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องเอาไปโรงเรียนก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
2.ซักเสื้อผ้าให้ลูก
เมื่อลูกโตพอที่จะทำงานบ้านได้แล้ว แต่คุณไม่เคยฝึกหรือ
ให้ลูกได้ทำด้วยตัวเองบ้างเลย และการที่คุณคอยซักเสื้อผ้า
ให้ลูกทุกวัน อาจทำให้เขาเคยตัวและเป็นคนที่ไม่มีวินัยใน
ตัวเอง หรือไม่มีความรับผิดชอบได้ ดังนั้น หากเขายังอยู่ใน
วัยที่พอเรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว คุณก็ควรสอน
เขาถึงวิธีการใช้เครื่องซักผ้าหรือการซักผ้าด้วยมือ เพื่อที่เขา
จะได้ฝึกทำมันด้วยตัวเองได้นั่นเอง
3. ขีดเส้นชีวิตให้ลูก
การที่คุณคอยกำหนดก ฎ เ ก ณ ฑ์ ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ลูกนั้น
คอยเดินตามทางที่พ่อแม่ปูไว้ ซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องดีที่จะทำให้
ลูกมีวินัย แต่ในทุกๆกฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ก็ควรให้ลูกรับรู้ด้วยเช่นกัน
พร้อมให้ลูกมีส่วนร่วมในการขีดเส้นชีวิตของตนเองและต้องปล่อย
ให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะทำบางสิ่งด้วยตัวเองบ้าง เพียงเท่านี้ความ
สำเร็จในชีวิตลูกก็จะอยู่ไม่ไกล
4. ไม่ยอมปล่อยให้ครูมาว่ากล่าว ตักเตือน หรือตีลูก
ถ้าลูกมาฟ้ อ งว่าถูกครูตี หรือว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งนั่นอาจทำให้
คุณพ่อคุณแม่มีอาการหัวร้อนและพร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียน
แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อย ากบอกว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องใจเย็นๆก่อน
และอาจต้องสอบถามลูกถึงสาเหตุที่ครูทำเช่นนั้น ซึ่งหากลูกเรานั้น
ทำความผิดจริงๆ และการล งโท ษของครูนั้นก็ไม่ได้ ร้ า ย แร งอะไร
คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องถึงขั้นไปคุยกับคุณครูเองที่โรงเรียน ควรปล่อย
ให้เป็นหน้าที่ของคุณครูที่ต้องอบรมสั่งสอนลูกของเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรทำ คือ
ให้เราสอนลูกแทน ว่าจะต้องทำตัวอย่ างไรเพื่อไม่ให้โดน ครูว่าหรือตีอีก
5. ปลุกลูกไปโรงเรียนในตอนเช้าทุกๆวัน
การปลุกลูกเพื่อไปโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวัน
ของคุณเลยที่ต้องทำทุกเช้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งความจริงแล้วนั้น
คุณควรฝึกลูกให้ตั้งนาฬิกาปลุกและจัดสรรเวลานอนให้เหมาะ
สมกับตัวเอง เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับตารางชีวิตของ
ตัวเองได้ด้วยนั่นเอง
6. ยุ่งกับการเรียนของลูกจนเกินไป
การเป็นห่วง และสนใจในเรื่องเรียของลูก หรือสนใจในความ
เป็นอยู่ที่โรงเรียนของลูกก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่การที่คุณ
ไปบงการหรือกำหนดเส้นทางการเรียนของเขา โดยไม่ให้เขา
ได้มีสิทธิคิดหรือลองตัดสินใจด้วยตัวเอง นั่นอาจจะทำให้ลูก
ของคุณไม่โตเป็นผู้ใหญ่เสี ยที
7. ยอมให้ลูกหยุดเรียนอย่ างง่ายดาย
เพราะเด็ กบางคนอาจมีอาการป่ ว ยการเมือง เนื่องด้วยสาเหตุ
หลายๆ อย่างอาจจะเกิดจากวิชาเรียน และการบ้านต่าง ๆ ซึ่ง
วิชาเรียนอาจง่ายเกินไป จนทำให้เขาเกิดความรู้สึกเบื่ อหน่าย
หรือวิชาเรียนอาจย ากเกินไป ทำให้เขาเกิดความกดดันว่าไม่
ฉลาดเท่าเด็กคนอื่นๆ และสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรต้องทำ ก็คือ
อย่ าถามลูกว่าทำไมถึงไม่อย ากไปโรงเรียน เนื่องจากเขามัก
จะไม่รู้คำตอบนั้นหรอก เมื่อเขาไม่รู้ว่าจะตอบเราอย่ างไรนั้น
ก็จะเป็นการทำให้เ ด็ กเกิดความรู้สึกเค รี ย ดแทน ทั้งนี้พ่อแม่
ผู้ควรบอกเด็ กว่าความกลั วไม่ช่วยอะไร หากแต่เขาควรจะเอาชนะความกลัว
นั้นให้ได้ ควรเปิดใจให้กว้างๆ ในการรับฟังความ รู้สึกของลูกด้วยนั่นเอง