คือเรื่องมันมีอยู่ว่า….
ในย ามค่ำคืนของคืนหนึ่ง สองผัวเมียสูงวัยคู่หนึ่ง เขาได้นั่งคุยกันอยู่ในกระต๊อบที่ทรุดโท ร ม
ถึงเรื่อง การทำตามคำสอนของพ ระเจ้า ก็คงมีแต่พวกคนรวยเท่านั้นที่ทำมันได้ ใครที่มีชีวิตอยู่
เย็นเป็นสุข อยู่แล้ว ก็คงจะไม่ได้ไปทำอะไรที่มัน ผิ ด ก ฏ ตามที่พ ระเจ้า ห้ามไว้หรอกนะ…
บังเอิญว่า พระเจ้าดันได้ยินคำสนทนาเหล่านี้ จึงส่งเทวดาลงมาองค์หนึ่ง ซึ่งเทวดาองค์นั้น
ท่านได้นำพาทั้งคู่ไปอยู่ในคฤหาสน์อันสุดหรูหรา เทวดาบอกกับทั้งสองว่า
“ จงอยู่ที่นี่ให้สุขสบายที่สุดตามคำอนุญาตของพระเจ้า อาห าร ข้าวขอ งเครื่องใช้
ทุกอย่ างมีให้พร้อม แต่มีข้อแม้อยู่เพียงข้อเดียวก็คือ…” หลังจากนั้นเทวดาองค์นั้นก็ชี้ไป
ที่ชามธรรมดาๆ ใบหนึ่ง ที่มีฝาปิดอยู่บนโต๊ะแล้วกับทั้งคู่อีกว่า
“ ไม่ว่าจะเวลาไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ห้ ามเปิดฝาของชามใบนี้ออกเด็ ดขาด
มิเช่นนั้นแล้ว พวกเจ้าก็จะถูกส่งกลับไปอยู่ที่กระต๊อบเหมือนเดิม ”
ทั้งสองยิ้มรับอย่ างมีความสุข คิดในใจว่ามีเรื่องดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตแล้ว
คงมีแต่คนโ ง่ เท่านั้นแหละที่จะไปสนใจเปิดชามใบนั้น ชีวิตที่แสนสุขกำลังดำเนินไป
ได้อย่ างราบรื่น คิดว่าคงไม่มีใครไปสนใจชามใบนั้นอย่ างแน่นอน แต่บางทีความสุข
ที่มันมากล้นจนเกินไป สุดท้ายก็จะกลายเป็นความเคยชิน จนอาจกลายเป็นเรื่องน่าเบื่ อ
ไปเลยก็ได้ นานวันเข้าทั้งสองต่างคุ้นเคยกับทุกสิ่งทุกอย่ าง ทุกซอกทุกมุมในบ้าน
ยกเว้นชามใบนั้น ที่ยังไม่เคยแตะต้องมันเลย พวกเขาเริ่มเกิดความอย ากรู้อย ากเห็น
ว่าแท้จริงแล้ว มีความลับอะไรซ่อนอยู่ในชามใบนั้น ความรู้สึกมันเพิ่มดีกรีความอย ากรู้
อย ากเห็นขึ้นในทุกๆวัน จนในที่สุดวันนั้นก็มาถึง …
เมื่อลุงตะโกนออกมาด้วยความอึดอัดว่า “ ไม่ไหวแล้วโว้ยยย หากไม่เปิดฝาออกดู
เราต้องบ้ าอย่ างแน่ๆ พระเจ้าให้เราเยอะขนาดนี้แล้ว จะมาสนใจอะไรกับอีแค่ชามใบนี้
ใบเดียว ” ว่าแล้ว ลุงก็เปิดฝาชามนั้นออกทันที และสิ่งที่ปรากฏก็คือไม่มีอะไรอยู่ในชาม
ใบนั้นเลย และแล้วเทวดาก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับพูดว่า “ พวกท่านมีความสุขสบาย
ร่ำรวยที่โหยหามาตลอดชีวิต แต่ก็ยังปล่อยวางกับชามธรรมดาๆใบเดียวไม่ได้
เห็นไหมละว่า กิเล ส ตัณห า กับฐานะความรวย จนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย
พวกเจ้าทั้งคู่จงกลับไปอยู่กระต๊อบเหมือนเดิม กลับไปรับเคราะห์กรร มที่ตัวเองสร้างไว้ ”
และการมีเมียน้อยก็เหมือนการพย าย ามเปิดฝาชามใบนั้นแหละ…
เพราะคนเรา ตอนมีชีวิตอยู่ในช่วงสร้างเนื้ อ สร้างตัว ก็มักไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆ
แต่พอชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทาง มีความสุขสบาย ก็เริ่มมีความใคร่นอกรูปแบบ
ก็จะมาเยือน และสำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ จะรับรู้ได้ว่าพอเหตุการณ์
มันผ่านไปแล้วจะรู้สึกได้เลยว่า มันก็แค่นั้นเอง แต่ไม่รู้ทำไมจึงหลงไปทุ่มเทให้กับ
เหตุการณ์นั้นมากมายก่ายกองขนาดนั้น มันก็เหมือนกับความอย ากที่จะเปิดฝาของ
ชามออกมาดูให้ได้นั่นแหละ แต่หลังจากเปิดแล้วก็จะรู้ว่ามันไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย
แต่สิ่งที่จะตามมาคือความวุ่นวาย ความเดื อดร้อ น ความยุ่ งย าก ส ารพัดปัญหา
จะตามมา จากชีวิตที่เคยสงบสุข ของครอบครัวก็จะเปลี่ยนไปในทันทีเพียงเพราะ
อย ากมีภรรย าให้ได้มากกว่าหนึ่งคน ชีวิตคนเรามักชอบสู้ร บต บมือกับจุดอ่อนตนเอง
แต่คงไม่สามารถเอาชนะมันได้ทุกครั้ง ในแต่ละชีวิตเบื้องบนได้ให้อะไรเรามามากมายแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถ ความสุขสบาย ความรักจากคู่ชีวิต มีลูกๆที่น่ารัก ครอบครัว
ที่อบอุ่น ทุกอย่ างล้วนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ถ้าเรารู้จักขยันและรู้จักการวางตัวชาม
ใบที่มีฝาปิดอยู่ คงไม่จำเพาะเจาะจงจะเปรียบเปรยถึงเรื่องเมียน้อยเท่านั้น
แต่ยังรวมเรื่องกิเล ส ตัณห า อื่นๆ เช่น การ พ นั น ย า เ ส พ ติ ด เรื่องเงินทอง
สิ่งเหล่านี้มักเป็นสิ่ง ยั่ ว ย ว น สำหรับมนุษย์ที่มี กิ เ ล ส ตั ณ ห า อยู่เต็มอ ก
ขอให้บทความนี้ ช่วยเตื อนส ติแทุกคน ขอให้รู้จักหั กห้ ามใจตัวเองต่อสิ่ง
เย้ าย วนใจทั้งหลายที่ผ่านเข้ามา ซึ่งแท้จริงแล้วสุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรที่มีค่า
สำหรับชีวิต เหมือนชามที่ว่างเปล่าเพียงแค่มีฝาปิดมันไว้ให้ลึกลับน่าค้นหา
ขอขอบคุณ “ขจรศักดิ์”