
1. ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการวางแผนสร้างตัว
ส่วนมากเจ้าของเงินล้าน มักจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณวันละ 8 ชั่ วโมง
กับการวางแผนชีวิต ในขณะที่คนทั่วไปใช้เวลาคิดหาแต่เรื่องความสุข
หลายๆคนพอพูดถึงเรื่องการวางแผนการเงิน ชอบอ้างว่าไม่มีเวลา
ทั้งที่จริงๆแล้ว มันใช้เวลาน้อยมากๆ แค่เพียงไม่กี่นาทีเองในแต่ละวัน
ถ้าเรายอมทำงานเยอะขึ้น ก็จะได้เงินมากขึ้นด้วยเช่นกัน
2. ใช้จ่ายอย่ างสมเหตุสมผล
คนส่วนมากแม้จะทำงานหนัก ได้เงินเยอะแต่มักใช้จ่ายเยอะด้วยเช่นกัน
จึงไม่รวยสักที ในทางกลับกันคนรวยที่ทั้งทำงานหนัก กระเป๋าหนัก แต่
ก็คิดหนักด้วยเมื่อใช้จ่าย และคนรวยโดยทั่วไปมักใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่
แท้จริง คนรวยส่วนใหญ่ จะไม่ไหลไปตามกระแสวูบวาบ พวกเขาต้องการ
อิสระทางการเงินและจะไม่เป็น ท า ส ของสิ่งต่างๆ
3. มุ่งสร้างตัวด้วยสองมือเปล่า
คนรวยมักสร้างตัวด้วยตัวเอง โดยไม่สนใจมรดกหรือการสนับสนุนจากพ่อแม่
ร้อยละ 80 ของคนรวย เขาสร้างเงินล้านด้วยมือเขาเองล้วนๆ มีน้อยคนนักที่
จะพี่งพาพ่อแม่ หรือเฝ้ารอมรดก ยิ่งเริ่มต้นจากมือเปล่าพวกเขาก็ยิ่งแกร่ง
4. ให้ความสำคัญกับอิสรภาพทางการเงินมากกว่าสถานะทางสังคม
เจ้าของเงินล้านตัวจริงชอบใช้ชีวิตแบบชนชั้นกลาง อยู่ในบ้านขนาดพอสบาย
ขับรถยี่ห้อทั่วๆ ไปที่ใช้งานได้ดี พวกเขาไม่ชอบแข่งขันเอาหน้ากับใคร
จึงไม่ต้องมีหนี้ก้อนใหญ่ไว้คอยฉุ ดดึ งชีวิตวัน สาเหตุหนึ่งของการมีหนี้เยอะ
คือ การชอบนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เขามีอะไรก็ต้องมีมากกว่า
5. เลือกอาชีพที่ใช่
ส่วนมากเหล่าคนรวยอาจมีอาชีพที่หลากหลาย แต่สิ่งสำคัญคือ
มันต้องเป็นอาชีพที่ใช่สำหรับเขาเท่านั้น จริงอยู่ที่ผู้ประกอบการ
มีโอกาสเป็นเจ้าของเงินล้านเร็วกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า แต่กระนั้น
ก็ไม่พบว่ามีธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่งที่จะประสบความสำเร็จ
มากกว่าประเภทอื่นๆ จึงสรุปได้ว่า ความร่ำรวยนั้นมันมาจาก
ลักษณะนิสัยของพวกเขามากกว่าประเภทธุรกิจที่เลือกทำ
ซึ่งข้อนี้ต่างจาก ที่พวกเราชอบทำกัน คือ เลือกอาชีพที่นิยมมากกว่า
อาชีพที่ใช่ อย่ างเช่น ช่วงร้านกาแฟบูม ก็แห่กันไปเปิดร้านกาแฟ
จนเต็มไปหมด ในที่สุดหลายๆ ร้านก็ต้องพับกระเป๋ากลับบ้านขาดทุนกันไป