1.เอาแต่ติ และไม่เคยชม
ไม่ว่าใครถึงแม้ว่าจะทำงานเก่งแค่ไหน แต่ทุกคนก็ยังต้องการความใส่ใจ
และการยอมรับจากหัวหน้าของตัวเองเสมอ ถ้าทำงานดีแต่เคยถูกชม
เอ าแต่ตำหนิเวลาเราทำงานพลาด แบบนี้อย่ าว่าแต่คนทำงานเก่งๆ
ที่อยู่ด้วยไม่ได้เลย แค่พนักงานธรรมดาก็คงทนอยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน
การเป็นหัวหน้าที่ดีนั้น ย่อมอย ากได้ลูกน้องที่เก่งๆไว้ร่วมงาน แต่บางครั้ง
การกระทำของหัวหน้าโดยไม่ทันได้ฉุกคิด อาจเป็นชนวนเหตุสำคัญ
ที่ทำให้ลูกน้องคนเก่งตั ดสินใจลาออกเร็วขึ้นได้นั่นเอง
2.รับชอบ แต่ไม่รับผิด
หลายคนคงไม่โอเคเท่าไหร่กับหัวหน้าที่ชอบฉ วยโอกาสขโมยเครดิต
ผลงานของลูกน้องตัวเอง เมื่องานชิ้นนั้นได้รับคำชมจากเจ้านายมา
หัวหน้างานกลับบอกว่าเป็นผลงานชิ้นนั้นเป็นของตัวเอง แต่ถ้าหากงาน
ออกมาเป็นที่ไม่น่าพึงพอใจเมื่อไหร่ละก็ หัวหน้าก็จะโบ้ ยความผิดมา
ที่ลูกน้องทันที แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ และคงไม่ได้ใจลูกน้องแน่นอน
3.ไม่เคย Fight เพื่อลูกน้องตัวเองเลย
ข้อนี้ก็เป็นคุณสมบัติสำคัญอีกเช่นกัน เพราะการที่จะทำให้หัวหน้า
ได้เป็นที่รักและได้ใจลูกน้องนั้น ก็คือ การทำเพื่อลูกน้องตัวเอง
หรือการปกป้องลูกน้องในทีม โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขามีปัญหา
หัวหน้างานก็ควรจะออกหน้ารับแทนลูกน้องบ้าง แต่ถ้าหัวหน้า
คนไหนไม่เคย Fight เพื่อลูกน้องตัวเองเลย แบบนี้ก็คงไม่มีลูกน้อง
คนไหนอย า กทำงานด้วยแน่นอน
4.มอบงานให้คนเก่งทำเยอะกว่า
ทั้งๆ ที่ตำแหน่งงานและเงินเดือนก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่
แต่หัวหน้ากลับใช้งานแต่คนเก่งมากกว่า เพียงเพราะคิดว่าเขา
ทำงานออกมาดีและไว้วางใจได้ แต่หากหัวหน้าทำแบบนี้บ่อยๆ
แถมยังลืมที่จะโปรโมตคนเก่งหรือมีรางวัลพิเศษให้ ก็คงทำให้
ลูกน้องคนเก่งรู้สึกท้ อแ ท้ไม่น้อย มากไปกว่านั้นคือรู้สึกว่าอยู่ไปก็เหนื่อยเปล่า
5.ประเมินผลงานออกมาดี “ พอกัน ”
เมื่อเข้าสู่ช่วงประเมินผลงาน หากหัวหน้าประเมินลูกน้องให้ได้ดี
ในระดับ “ พอกัน ” แทบจะทุกคน อาจจะด้วยความเกรงใจหรือ
เหตุผลอะไรก็ตามแต่ เมื่อความยุติธรรมไม่บังเกิด ค้านกับผลงาน
ที่ออกมาแล้ว แบบนี้ลูกน้องเก่งๆ ก็จะหมดไฟ เพราะคงมองไม่เห็น
ลู่ทางที่จะก้าวหน้าได้นั่นเอง
ขอขอบคุณ w e a l t h m e u p
