Home ข้อคิดเตือนใจ 6 สาเหตุ ที่เป็นตัวบอกว่า คุณทำงานอยู่ที่นี่ยังไงก็ไม่รวย

6 สาเหตุ ที่เป็นตัวบอกว่า คุณทำงานอยู่ที่นี่ยังไงก็ไม่รวย

6 second read
0

1. รู้สึกว่า อยู่ต่อไปยังไงก็ไม่ก้าวหน้าทางการงาน

หากเรารู้สึกว่า ตัวเองไม่มีโอกาสก้าวหน้าในที่ทำงานเลย

ก็ไม่แปลกที่จะนึกถึง เรื่องหางานใหม่ เพราะโอกาสในการก้าวหน้า

คือเป้าหมายสำคัญกับคนทำงานอย่างเราๆ ซึ่งโอกาสในการก้าวหน้าที่หมายถึง

อาจไม่ใช่แค่การเลื่อนตำแหน่ง แต่มันอาจจะหมายถึงการ ได้รับโอกาสใหม่ ๆ

เช่น การได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ใหม่ๆ หรือได้เรียนรู้งานจากระดับหัวหน้างาน

แต่ยังไงก็ตามก่อน ที่คุณจะรีบลาออกจากงาน ลองเข้าไปคุยเรื่องนี้กับหัวหน้างานก่อน

แต่หากคุยแล้วยังดูไม่มีโอกาส อย่ารอช้าที่จะออกมาหาที่ใหม่ ที่ให้โอกาสมากกว่า

2. เบื่ อและไม่อย ากทำงานต่อ

เพราะภาพที่ทุกคนจำได้ว่า เราคือเบอร์หนึ่งในแผนก มันหายไปทุกวันๆ

ทุกวันนี้แค่จะเข็นให้งานเสร็จในแต่ละสัปดาห์ยังยาก เพราะเราเริ่มเช็กโซเชียลทุก ๆ

สิบนาที การทำงานกลายเป็นสิ่งสุดท้าย ที่คิดถึงหมดความกระตือรือร้น งานที่ได้รับมอบหมาย

มาถูกปล่อยค้างไว้ ซึ่งนอกจากกระทบต่องานตัวเองแล้ว

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังส่งผลให้เริ่มมีป า ก เ สี ย งกับเพื่อนร่วมงานไปด้วย

เนื่องจากงานของเราช้า มันก็กระทบต่อระบบการทำงานในแผนก

และหนักกว่านั้น คือการทะเล าะกับหัวหน้าจนทำให้รู้สึกว่า ไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว

3. เริ่ม หางานใหม่

หากเว็บที่เราเข้า มันเริ่มเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์หางานเริ่มพิมพ์คำว่า

“หางาน”ลงไปใน Search Engine และพร้อมเคาะปุ่มเอ็นเทอร์

นั่นเท่ากับว่าเรา ผ่านจุดสุดท้ายของความอดทนไปแล้ว และถ้าทุกวันมีแต่คำว่า

ฉันจะหางานใหม่เข้ามาในความคิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร อาจไม่เป็นการดี

ที่เราจะใช้ชีวิตด้วยการทนทำงานต่อไป ซึ่งนอกจากจะเป็นผลเสียต่อตัวเองแล้ว

ครอบครัวเพื่อนร่วมงานแล้ว รวมถึงบริษัทก็ต่าง ได้รับผลกระทบไปตามๆกัน

4. พูดคุยเรื่องงาน ในแง่ลบ ให้คนในครอบครัวฟัง

ในช่วงเวลาสุขสันต์ เวลาทานข้าวกับครอบครัว จากที่เคยเป็นการพูดคุยเรื่องราว

ที่สนุกๆ ในที่ทำงานของเรา จะถูกแทนที่ด้วยการ ถูกตำหนิและถูกต่อว่าจาก

ที่ทำงานของเรา เป็นหัวข้อหลักเลย แทรกด้วยพฤติก ร รมที่ไม่ดี ของเพื่อนร่วมงาน

และวันแล้ววันเล่าที่คนในครอบครัวของเรา ได้รับฟังแต่เรื่องงาน

ในเชิงลบของเรา ถ้าสถานการณ์นี้ยังเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ และมีแนวโน้ม

ว่าจะบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจต้องเริ่มพิจารณา ถึงงานของเราแล้วนะ

5. คิดถึง ภาพตอนวัยเกษียณ

เพราะหากอยู่ ๆ ก็จินตนาการ ภาพตัวเองปลดเกษียณ แล้วหยุดทำงานไป

นอนพักผ่อนอยู่บ้านบางคนถึงขั้นนับปีนับเดือนที่จะเกษียณกันเลยทีเดียว

เพราะในแต่ละวันนั้นมันไม่ได้มีแร งจูงใจให้อย ากไปถึงที่ทำงาน ไม่ได้มี Passion

ที่อยากจะสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่าออกมา ชีวิตการทำงานหมดไป

กับงานที่ทำแบบส่ง ๆ เท่านั้น ก็อาจจะถึงเวลา ที่เราต้องเริ่มมองหาทางที่ดีกว่าเดิมแล้ว

เพราะการนิ่งดูดาย ต่อเวลาที่ผ่านไปมันไม่สามารถช่วยให้ความหวัง ที่จะเกษียณเป็นจริงได้หรอก

6. ระบบชี วิตพั งไม่เป็นท่า

เพราะจากที่เคยเป็นคนนอนหลับง่าย ๆ กลับกลายเป็นคนนอนไม่หลับ

ตื่นมากลางดึกบ่อย ๆ เพราะต้องเก็บเอาความเ ค รี ย ดจากเรื่องงาน ไปนอนฝัน

และนี่คือจุดเริ่มต้นของระบบชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมหนำซ้ำบางคนจากที่เคย

สุขภาพแข็งแร งกลับมีอาการป่ ว ยบ่อย ซึ่งการป่ ว ยทางกาย นี่แหละที่เป็นตัวชี้วัด

ได้เช่นกันว่าสุขภาพจิตของเราอาจจะกำลังแ ย่ นอกจากนี้ ถ้างานมันรบกวนความคิดจน

ทำให้ทุก ๆ เย็นต้องนัดเพื่อนออก ไปสังสรรค์เพื่อให้หายเครี ย ดจนเริ่ม มีสโลแกน

ติดปากในว่า “ดื่ มเพื่อให้ลืมงาน” ถ้าแบบนี้มันก็อาจ เป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่

ที่เกิดขึ้นแล้วว่า งานนี้อาจจะไม่เหมาะกับเราแล้ว

พอเราอ่ า นมาถึงตรงนี้แล้วจะรู้สึกว่ามีหลายสัญญาณ ที่ตรงกับเราแล้วก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปล่ะ

ทางที่ดีกว่าคือ การเริ่มตรวจสอบตัวเอง เพื่อพิจารณาว่า เรากำลังเผชิญกับปัญหาอะไร

จะแก้ไขให้มันดีขึ้นได้ยังไง เพราะถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มันมีสาเหตุจากตัวเรา

ไม่ว่าจะเปลี่ยนงานอีกกี่ที่ ปัญหานี้ก็ไม่หายไป

ขอขอบคุณ j o b t h a i

Load More Related Articles
Load More By kondee
Load More In ข้อคิดเตือนใจ

Check Also

ขอฝากถึงลูกๆทุกคน เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ต้องเดินทางไกล

ลองคิดดูนะว่า…การที่เราได้เกิดมาลืมต าดูโลกนั้น ค … …