Home ข้อคิดเตือนใจ บริษัท 7 ประเภท ที่คุณไม่ควรไปร่วมงาน ถ้าร่วมงานอยู่ควรคิดให้ดี

บริษัท 7 ประเภท ที่คุณไม่ควรไปร่วมงาน ถ้าร่วมงานอยู่ควรคิดให้ดี

2 second read
0

ถ้าคุณกำลังจะตกงาน หางานไม่ได้ หรือเริ่มรู้สึกเบื่องานอย ากหางานใหม่

ก็ต้องตัดสินใจเลือกบริษัทที่กำลังจะทำงานด้วยให้ดีนะ การหางานนั้นมันไม่ได้มีเพียงปัจจัย

ในเรื่องของเงิน หรือหน้าที่การงานเท่านั้นหรอก แต่ยังมีเรื่องที่ต้องคิดเกี่ยวกับ

บริษัทที่เราจะไปทำงานด้วย และก่อนที่จะยื่ นสมัคร หรือตกลงทำงานกับเขา

เราขอพูดถึง บริษัท 7 ประเภท ที่คุณไม่ควรไปร่วมงาน ถ้าร่วมงานอยู่ก็ควรพิจารณาให้ดี

1 บริษัทเน้นคุยงาน ไม่เน้นทำ

แล้วสังเกตเห็นได้ยังไง : คือวันๆ ผู้บริหารเอาแต่ประชุมๆ ไม่ตัดสินใจอะไร

แล้วมันจะแ ย่ แค่ไหน : ก็ลองคิดถึงว่า คุณต้องทำงานกับบริษัทที่มีผู้บริหาร

ระดับสูงอยู่ 3 คน ประชุมระดมความคิดกันเองทั้งวัน แต่พอจบวัน พวกเขากลับลงเอย

แยกย้ ายกันกลับบ้าน และคุณก็ไม่รู้ว่าต้องทำไง แย่ไปกว่านั้นก็คือ

พวกเขากลับมาทวงงานคุณทั้งๆ ที่ไม่ได้ให้คุณทำอะไรเลย

แล้วจะทำอย่ างไร :ก็ลองถามตัวเองว่า คำถามเหล่านี้ มีเฉพาะคนในเท่านั้นใช่ไหม

ที่จะได้โปรโม ทห รื อบ ริ ษัทกำลังหาคนนอก เข้าไปทำงาน

ในตำแหน่ งใหญ่หรือไม่ หรือ ทำไมมีผู้บริหารระดับ Vice Pressident เป็น 10

ทั้งที่บริษัทมีพนักงงานทั้งหมดเพียง100 คน หากคุณเกิดคำถามขณะดูรายละเอียด

บริษัท นั่นแหละมันเป็นสัญญาณที่บอกว่า บริษัทนั้น

เป็นบริษัทที่เน้นคุยงาน ไม่เน้นทำงาน ซึ่งหากคุณเลือกได้ก็อย่ าเข้าไปทำงานเลย

2 บริษัทที่คนลาออกบ่อยๆ

สังเกตได้อย่ างไร : มีการลงประก าศรั บสมั ครตำแหน่งสำคัญๆ

ตามเว็บไซต์บ่อยๆ หรือไม่ก็บริษัทที่คุณเข้าไปทำงานอาทิตย์แรกๆ

มีแต่คนพูดว่าจะลาออกไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือพูดจริง

แล้วมันจะแ ย่แค่ไหน : ปกติบริษัทที่ดีไม่ควรมีการเปิ ดรับสมั คร

ตำแหน่งผู้จัดการ หรือผู้บริหารระดับสูงในทุก 6 เดือน หากคุณเห็นบริษัทใด

ที่มีพฤติกร ร มเช่นนี้ บริษัทนั้นอาจกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก

และเป็นไปได้จาก 3 สาเหตุเหล่านี้ คือ

– ผู้บริหาร ไม่มีความเป็นผู้นำ

– มีวัฒนธรรมองค์กร ที่ไม่สามารถดึงดูดคนดีๆ ได้

– เป็นไปได้ว่าผู้บริหาร มีเป้าหมายสั้นพอๆ กับระยะเวลาที่พนักงานอยู่บริษัท

แล้วจะทำอย่ างไร : และบริษัทที่มีแต่คนลาออกมัก

ไม่ทำตามข้อตกลง ที่เคยคุยไว้แต่แรก เพราะงั้น ถ้าเขาสัญญาว่า

จะโปรโมตคุณ ในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ ก็อย่าไปคิดอะไรเยอะเลย

3 บริษัทบอนไซ

แล้วจะสังเกตเห็นได้อย่ างไร : หากคุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไร

เพิ่มเลยจากงานที่ทำอยู่ ทุกวันไม่มีการประเมินผลการทำงาน

หรือคุณอาจจะโดนสั่ง ให้ทำงานนอกเหนือความรับผิดชอบด้วย

แล้วมันจะแย่ แค่ไหน : คุณอาจจะคิดว่า เงินเดือนโอเคหน้าที่ ที่คุณได้รับมา

ก็ไม่แ ย่ แต่พอคิดๆ ดูอีกที ยิ่งทำงานนี้ไปคุณกลับไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย

หนักไปกว่านั้นยังรู้สึกภูมิปัญญาลดน้อยถอยลง จะขอไปเรียนต่อเหรอ

ฝันไปเถอะ บริษัทบอนไซเหมาะมาก กับคนที่ไม่อย ากเรียนรู้อะไร

แล้วจะทำอย่ างไร : ทำงานที่บริษัทบอนไซหมายถึงสัญญาณที่คุณ

จะต้องลาออกมา เข้าสู่วัฏจักรหางาน สมัครงานใน 12 เดือน 18 เดือนแน่นอน

เพราะบอนไซ คือต้นไม้ที่ถูกตัด และเลี้ยงไว้ไม่ให้โตไป

พูดอีกอย่ างคือ ไม่ต า ยก็เลี้ยงไม่โตนั่นเอง

4 บริษัทที่มีวัฒนธรรม ขัดแย้งกันเอง

แล้วสังเกตเห็นได้ยังไง : มีคนวงในหรือเพื่อนของเพื่อน ที่ทำงานในนั้น

บ่นให้ฟังถึงบรรย ากาศ การทำงาน ว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้

แล้วมันแ ย่แค่ไหน : บริษัทแบบนี้ อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คุณ

ไม่เลือกส่งใบสมั ครมาตั้งแต่แรก แต่รับรองได้ มันจะส่งผลกระทบ

ต่อชีวิตการทำงานของคุณในอนาคตแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการทำงาน

ไปถึงด้านการเงินของบริษัทด้วยนั่นเอง

แล้วจะทำอย่างไร : เลี่ยงได้ก็เลี่ยง อย่ าตกลงปลงใจทำสัญญ ากับบริษัทประเภทนี้

เพราะคุณเองนี่แหละ อาจมีปัญหาในระยะย าว

5 บริษัทประเภทที่ ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง

สังเกตเห็นได้ยังไง : ภาพบรรย ากาศการทำงานสุดคูล และแคมเปญโ ฆ ษ ณ า

ที่ไม่มีใครเทียบได้ แล้วพอเข้าไปทำงานจริง มันกลับกลายเป็นหนังคนละม้วนซะงั้น

แล้วมันจะแ ย่ แค่ไหน : ก็เหมือนคุณเข้าเว็บ จองโรงแรมที่คุณไม่ได้

มีโอกาสเห็นจริงๆ นั่นแหละ ในรูปดูสวยมาก พอเข้าพักจริงๆ

ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ โรงแรมคุณอยู่แค่ 2-3 คืน

แต่บริษัท คุณจะต้องอยู่กับมันอย่ างน้อย 40 ชั่ ว โมงต่อสัปดาห์

แล้วจะทำอย่ างไร : ก็จงหาอ่ านรีวิวบริษัทให้ดี ก่อนตัดสินใจทำงาน

ทางที่ดีคุณควรหาคนรู้จักที่ทำงานดูในนั้น แล้วถาม

6 บริษัทที่ เล่นไม่ซื่อกับคุณ

สังเกตเห็นได้ยังไง : บริษัทที่คุณทำงานอยู่ไม่มีการตั้งเป้าหมาย

หรือไม่มีการเขียนอะไร เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ

ที่ชัดเจน ไปจนถึงเป้าหมายระยะยาวของบริษัท หรือคุณอาจจะเห็นนายคุณ

ที่เอาแต่สัญญาว่าจะโปร โ ม ทคุณ แบบนี้ระวังไว้ให้ดี​

แล้วมันจะแ ย่ แค่ไหน : เพราะในโลกปัจจุบัน ที่ทุกคนถามหาความโปร่งใส

ได้จากทุกองค์กรบริษัทต่างๆ จึงพย าย ามนำเสนอ ความโปร่งใส

โดยการนำเสนอให้เห็นวัฒนธรรม เช่น การเปิดเผยสวัสดิการหรือโบนัสต่างๆ

จนกลายมาเป็นเหมือนคำมั่นที่บริษัทพย าย ามให้ไว้ ลองคิดดูว่าถ้า HR

มาบอกว่าจะโป ร โ ม ท คุณปลายปีนี้ แต่พอปลายปีแล้วทำเฉยเหมือน

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือบอสคุณ บอกจะขึ้นเงินเดือนให้ พอถึงปลายปีกลับบอกว่า

ไว้กลางปีหน้า นั่นแหละ ที่มาของบริษัทที่เล่นไม่ซื่อแล้วนะ

แล้วจะทำอย่ างไร : ก็วางแผนหางานใหม่ เตรียมตัวลาออกเลย

เพราะมันไม่มีเหตุผล ที่คุณจะอยู่ทำงาน กับบริษัทที่เอาแต่สัญญา แต่ไม่ทำ

อยู่ไปชีวิตคุณคงย่ำ อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ก้าวหน้าหรอก

7 บริษัทที่ไม่มีอนาคต

แล้วจะสังเกตเห็นได้ยังไง: บริษัทที่ไม่มีแผนอะไรเลยไม่ว่าระยะสั้น

หรือระยะย าว ระยะไหนๆ ไม่ว่าคุณจะไปถามใครในบริษัท

ก็ไม่มีใครรู้ และแม้กระทั่งหัวหน้าคุณเองก็ไม่รู้

แล้วมันจะแ ย่ แค่ไหน : บริษัทที่เปรียบเสมือนไททานิคที่ล่องไปใน

มหาสมุทรกว้างใหญ่ ก็ดูแล้วไม่มีอนาคต เช่นนี้ก็เหมือนบริษัท

ที่พร้อมจะจมลงได้ทุกเมื่อ คุณอาจจะไม่รู้สึกอะไร หากเข้าไปเริ่มงานแรก ๆ

และอาจจะมองว่า มันเป็นความท้าทาย เป็นความเปลี่ยนแปลง

ในบริษัทที่เกิดขึ้น เหมือนชีวิตต้องหมุนเร็วตลอด แต่พอทำงานไป

แล้วคุณอาจจะพบว่าทุกอย่ างมันเละ มันถูกคิดและทำแบบวันต่อวัน

ไม่มีการวางแผน บางทีอาจจะมีสัญญาณเช่น “เดือนนี้ผมขอยังไม่จ่ายเงินเดือนนะ”

ตามมาก็ได้นะ ใครจะรู้ เราเองก็ต้องสังเกตด้วย

แล้วจะทำอย่ างไรดี :ไม่ว่าภาพลักษณ์ของบริษัท จะดูดีขนาดไหน

ตามที่คุณเห็นในสื่อต่างๆ แต่หากบริษัทไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร

ทำเพื่ออะไร แสดงว่าบริษัทคุณ ไม่มีแผนกลยุทธ์

สิ่งที่คุณทำได้ คือช่วยบริษัทคุณ วางแผนหรือลาออกไปทำงานที่ดีกว่านี้นะ

Load More Related Articles
Load More By kondee
Load More In ข้อคิดเตือนใจ

Check Also

ขอฝากถึงลูกๆทุกคน เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ต้องเดินทางไกล

ลองคิดดูนะว่า…การที่เราได้เกิดมาลืมต าดูโลกนั้น ค … …