1. คอยถามคำถาม และทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเสมอ
เชื่อว่าเราทุกคนเคยนั่งใจลอยเวลาที่คนอื่นพูดอยู่
หรือเวลาได้ยินอะไรผิด ๆ การถามคำถามและทวน
ในสิ่งที่อีกฝ่ายเพึ่งพูดถึงไป จะแสดงให้เห็นว่าคุณ
ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูด และช่วยให้คุณได้เข้าใจใน
บางอย่ างที่คุณอาจจะเข้าใจผิดอยู่ นอกจากนี้แล้ว
มันยังช่วยในการพูดแบบกึ่งทางการและช่วยเติม
เต็มความเงียบในบทสนทนาได้อีกด้วย แทนที่จะ
เปิดการสนทนาด้วยลมฟ้าอากาศ ให้คุณลองถาม
คู่สนทนาของคุณดูว่า หน้าร้อนนี้มีแพลนไปไหน
หรือเปล่า แล้วก็ต่อยอดจากคำตอบเหล่านั้นดีกว่า
2. อย่ าติดเอ่อ
การที่คุณพูด “ คือ เอ่อ แบบว่า ” ในระหว่างประโยค
มันไม่ทำให้การพูดของคุณดูดีขึ้นเลย ทางที่ดีนั้นควร
ตัดคำพวกนั้นออกไป แล้วประโยคของคุณจะฟังดูน่า
เชื่อถือและมั่นใจมากขึ้น วิธีที่จะลดการพูดคำพวกนี้
ก็คือ ตั้งสติและลองนับดูว่าเราพูดมันบ่อยแค่ไหน
หรือคุณอาจจะลองเอามือออกจากกระเป๋า ทำตัวตาม
สบาย และหยุดทำสมาธิก่อนที่จะพูดก็ดีนะ
3. นึกถึงความรู้สึกคนอื่น
การสื่อสารเป็นอะไรที่ไปสองทาง ถ้าคุณฝึกมอง
จากมุมมองของฝั่งตรงข้าม คุณจะลดความกังวล
และความย ากลำบากในการสื่อสารกับผู้อื่นได้เลย
เช่น ถ้าคุณเข้าใจเวลาที่แฟนคุณบอกว่าเธอเหนื่ อย
เกินกว่าที่จะคุยกัน ว่าจริงๆแล้วมันหมายความว่า
เธออย ากคุยกับคุณนะ คุณก็มาถูกทางแล้วแหละ
การนึกถึงความรู้สึกคนอื่นจะทำให้คุณเข้าใจข้อ
ความที่ฝั่งตรงข้ามต้องการสื่อได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าบาง
อย่ างเค้าจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม และพอคุณ
เข้าใจ คุณก็จะสามารถโต้ตอบได้อย่ างมีประสิท
ธิภาพด้วย การสังเกตพฤติก ร ร มของคนและคอย
เอาสิ่งที่เห็นมาวิเคราะห์ก็เป็นวิธีที่ดีในการฝึกเรื่องนี้นะ
4. รู้จักเล่าเรื่อง
เรื่องราวต่าง ๆ เป็นอะไรที่ทรงพลังมาก เพราะมันจะ
ทำให้เราตื่นตัว ทำให้การพรีเซนต์ของคุณดูน่าสนใจ
มากขึ้น ดูน่าเชื่อถือมากขึ้นและอาจจะทำให้คุณผ่าน
การสัมภาษณ์ไปได้อย่ างดีก็ได้ ความลับในการเป็น
นักเล่าเรื่องที่ดีนั้น คือให้คุณใช้คำว่า “ แต่ ” มาประ
กอบในการเล่าเรื่อง ทุกๆ คนมีเรื่องราวดีๆ อย่ างน้อย
หนึ่งเรื่องให้เล่าอยู่แล้วแหละ แต่มันจะดีมากกว่าถ้า
คุณเตรียมเรื่องไว้ในหัวอย่ างน้อยสามเรื่อง สำหรับ
สถานการณ์ที่แต กต่างกันออกไป คุณสามารถใช้
เรื่องพวกนี้เป็นตัวดึงดูดความสนใจและให้คนฟัง
คล้อยตามไปในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ได้เลยนะ
5. ปรับตัวไปตามผู้ฟัง
การสื่อสารที่ดีที่สุด คือปรับวิธีการพูดไปตามผู้ฟัง
คุณอาจจะมีสไตล์ในการสื่อสาร มากมายหลายแบบ
ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องพูดกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า
แฟน เด็ ก หรือผู้สูงอายุ พย าย ามนึกถึงผู้ฟังของคุณ
อยู่เสมอ เวลาที่คุณต้องการจะสื่อสารกับเขา แน่นอน
ว่าอย่ าพูดกับแฟนของคุณเหมือนกับที่พูดกับหัวหน้า
ของคุณ ไม่อย่ างงั้นล่ะก็…อย่ าหาว่าเราไม่เตือน
6. ฟังให้มาก
สิ่งหนึ่งที่คุณจะทำได้ก็คือฟังให้มาก ให้ความสนใจ
กับสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดและไม่ขัดจังหวะเขา ถึงคุณ
จะมีสไตล์ในการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน แต่อย่ างน้อย
คุณก็จะเข้าใจในเรื่องเดียวกัน และหวังว่าอีกฝ่ายจะ
ฟังคุณอย่ างตั้งใจเหมือนกับที่คุณฟังเขาด้วย
7. พูดสั้นๆ แบบที่เจาะจง
เวลาสื่อสารไม่ว่าจะด้วยการเขียนหรือการพูด ทางที่ดี
คุณควรจะมีที่มา เหตุผล ใจความและประโยคปิดท้าย
ที่ดี เพื่อที่ข้อความของคุณจะได้สั้นกระชับและไม่มี
อะไรตกหล่น นอกจากนั้นคุณควรจะสื่อสารให้ชัดเจน
ได้ใจความ เห็นภาพถูกต้อง เนื้ อความสอดคล้องกัน
ครบถ้วนสมบูรณ์ และสุภาพนอบน้อมด้วย
8. ระวังภาษาก ายของคุณให้ดี
หากคุณบอกเพื่อนของคุณว่า คุณพร้อมที่จะคุยกับเขา
แต่คุณกำลังกอดอกอยู่ หากคุณบอกว่าคุณกำลังฟังที่
เขาพูดนะ แต่ตาคุณก็ยังจ้องมองโทรศัพท์อยู่ แบบนี้
พอจะเห็นภาพมั้ย ? ภาษาก ายสำคัญนะ เพราะมันมัก
จะบอกอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่คุณ
สบตา หรือท่าทางของคุณในตอนที่สัมภาษณ์ คุณกำลัง
สื่อสารอยู่ตลอดเวลา แม้คุณจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม
9. มีสคริปอยู่ในหัวสำหรับการพูด
ไม่ว่าจะเป็นคุยแบบกึ่งทางการ หรือการพูดเนื่องใน
โอกาสต่างๆ การพูดแบบกึ่งทางการเป็นศาสตร์ที่มีคน
แค่ไม่กี่คนสามารถทำได้ ถ้าคุณไม่ใช่คนพวกนั้นคุณ
ควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้า เพราะการพูดติด ๆ ขัด ๆ
เวลาที่ต้องคุยกับคนที่เราไม่คุ้นเคยนั้น เป็นสิ่งที่หลีก
เลี่ยงไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้วการพูดถึงครอบครัว หน้าที่
การงาน กิจกรรมย ามว่าง หรือความฝันของคุณ จะเป็น
หัวข้อที่ดีในการสนทนา เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้
คุณและคู่สนทนาของคุณได้รู้จักกันมากขึ้น และมันก็
ง่ายขึ้นที่จะหาเรื่องคุยอื่นๆที่คุณทั้งคู่สนใจต่อไป
10. เอาสิ่งที่รบกวนความสนใจออกไป
มันค่อนข้างจะดูไม่ดีนักนะที่คุณเล่นมือถือตลอดเวลา
ที่คุณกำลังอยู่กับเพื่อนๆ และควรจะคุยกับพวกเขาบ้าง
เราเข้าใจว่าคุณไม่สามารถจะกำจัดสิ่งรบกวนหรือเทค
โนโลยีพวกนี้ออกไปได้หมดหรอก แต่การหยุดใช้มันซัก
แป๊บ จะทำให้ความสามารถในการสื่อสารกับคนอื่นของ
คุณดีขึ้นอย่ างเห็นได้ชัดเลยนะ
