Home ข้อคิดเตือนใจ (เขียนได้ดีมาก) อย่าเป็นคนทะนงตัว รวยแต่ไม่สนใจพี่น้อง แล้วพอวันนึงเกิดตกอับ

(เขียนได้ดีมาก) อย่าเป็นคนทะนงตัว รวยแต่ไม่สนใจพี่น้อง แล้วพอวันนึงเกิดตกอับ

0 second read
0

มีอดีตเศรษฐีท่านหนึ่ง…เขาเล่าว่า…

เมื่อก่อนเขาเคยมีที่ดิน อยู่ในแทบจะทุกเขตของกทม.และตามหัวเมืองใหญ่ๆ

ทั่วประเทศเลยก็ว่าได้ ซึ่งรวมๆแล้ว ประมาณ 500 กว่าไร่ได้

เมื่อ 30 ปีที่แล้ว… เขาพกเงินในกระเป๋าไว้เที่ยวครั้งละเป็นแสนๆ

ทำมาค้าขายจนร่ำรวย ได้เงินดีจริงๆ ภรรย าของเขาก็ชอบเล่นหุ้นด้วย

แถมราคาหุ้นก็ขึ้นเอาๆ เราก็ได้กำไรมามากมาย พวกเรามีเงินสดหลายร้อยล้าน

อยู่มาวันหนึ่ง… มีญาติเขาคนหนึ่งเกิดเ ดื อ ดร้อน แล้วมาขอยืมเงินของเขา

เขาด่าคนนั้นอย่ างเสี ย ๆ หายๆ ด้วยความที่คิดว่าตัวเองนั้นมีเงินเยอะ

จะพูดอะไรกับใครก็ได้ หลังจากที่ว่าคนนั้นจบ เขาก็ให้เงินไปแสนหนึ่ง

แล้วบอกชายคนนั้นว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องเสนอหน้ามาให้เห็นอีกนะ

และเงินที่ให้ไปก้อนนี้ ก็ให้คิดซะว่าเรา “ ทำบุญ ทำทาน ”

ชายผู้นั้นรับเงินพร้อมน้ำตา และตอนนั้นเศรษฐีก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะรู้สึกยังไง

ต่อมา เศรษฐีก็ได้คิดการใหญ่ จัดตั้งโรงงานอะไหล่ที่อยุธยา ซึ่งปีนั้น

เกิด วิ ก ฤ ตน้ำท่วมหนัก น้ำพัดพาทุกอย่างไปจากชีวิตของเขา

รถ 19 คัน บ้านอีก 5 หลัง ที่ดินทั้งหมดและเงินสดที่เคยมีมากมายนั้น

แถมแฟนเขาที่เล่นหุ้น ก็เจ๊ งไปสี่ร้อยกว่าล้าน มีลูกทำธุรกิจก็หมดตัว

ข าดทุนย่อยยับเลย ภายในเวลาแค่ 2 ปี สิ่งที่เขาเคยมีมันหายไปหมด

สิ้นทุกอย่ าง เหลือไว้เพียงห นี้ สินกว่า 200 ล้าน

และปัจจุบันผมเขาคือ… “ บุคคลล้มละลาย ”

ที่ต้องเช่าห้องแถวพออยู่ได้ ขายก๋วยเตี๋ยวประทังชีวิตไปวันๆ

เมียขาก็ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร ส่วนลูกของเขา ก็ต่างพากัน

แยกย้ายกันไปเอาตัวรอดต มเส้นทางชีวิตของตัวเอง

หลังจากวันนั้น เขาก็ไม่เคยได้เจอหน้าลูกๆ อีกเลย

ตอนนี้เขาอายุได้ 76 ปี แล้ว แทนที่คนในวัยนี้จะได้พักผ่อนสบายๆ

แต่กลับต้องมายกหม้อก๋วยเตี๋ยว คอยล้างจานในทุกๆวัน

แต่อย่ างว่า ทุกวันนี้เขาก็เริ่มปลงได้บ้างแล้ว

เขาต้องมาลำบากตอนแก่ แต่ก็เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้นด้วย

เงินค่าเช่าห้อง ทุกวันนี้ก็ต้องไปขอยืมกับคนที่เขาเคยด่าทอแบบเสียๆหายๆ

ในวันนั้น เขาได้เข้าไปยืม แล้วลูกชายของญาติคนนั้นที่เคยมายืม

เขายื่นเงินให้แสนห้า แล้วบอกว่า…

“ พ่อผมบๅกหน้าไปยืมเงินคุณลุง เพราะตอนนั้นผมเข้าโรงพย าบ าล

เพื่อผ่ าตั ด เพื่อให้รอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้ ในวันนั้นพ่อผมนั่งร้องไห้ที่

คุณลุงด่ าแล้วโยนเงินให้เหมือนหมูหมา ถึงตอนนั้นลุงจะติพ่อพ่อก็ยอม

เพราะชีวิตลูกมีค่ามากกว่าสิ่งใด ให้ทำอะไรยังไรก็ยอม ในวันนั้นผมคิดว่า

ถ้ามีเงิน จะให้หามาคืนคุณลุง แสนนี้ผมคืนให้ แล้วอีกห้าหมื่นคือด อกเ บี้ย

ไม่มี ห นี้ หรือเป็นบุญคุณกัน แต่ถ้าคุณลุงลำบากคุณลุงมายืมกับผม

ผมจะให้ลุงกู้ แต่ผมจะไม่ด่ า คุณลุงเหมือนที่คุณลุงด่ าพ่อผม

จริงๆ ถ้าไม่มีเงินคุณลุงผมคงไม่รอ ดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ที่ผมมีวันนี้ได้

ก็เพราะเงินแสนก้อนที่คุณลุงโยนให้พ่อผมวันนั้นแหละ ที่มันช่วยต่อชีวิตให้ผม

ผมทำตามที่พ่อบอกแล้ว ให้ตอบแทน ห นี้ ก้อนนี้ให้คุณลุง

ส่วนลูกคุณลุง ผมไม่รู้เพราะว่า ก ร ร ม ของใครของมัน

เมื่อเขาได้ยินดังนั้น เขาเดินร้ องไ ห้มาถึงบ้านเช่า แล้วเอาเงิน

มาจ่ายค่าเช่าห้องแถว และลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวเพิ่ม

เขามีเงินเก็บไว้ 30,000 บาท และก็เข้าใจความรู้สึกของคำว่า

“ก ร ร ม นั้นตามสนอง” จริงๆหลานไม่ได้ด่ าเขา แต่หลานพูดความจริง

เพียงแค่เขายอมรับความจริงไม่ได้แค่นั้นเอง

แต่ตอนนี้เขาบอกว่า เขามีความสุขดีนะ เพราะมีพระ แม่ชี

ขอทาน มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านของเขา แต่เขาให้กินฟรีโดยไม่คิดเงิน

เพราะเขาคิดว่า ตอนเขามีเยอะๆ เขาเบื่ อคนมาบอกบุญ

เขาไม่เคยทำบุญเลยด้วยซ้ำ เขาทั้งกิน เที่ยว มีสาวๆล้อมมากมาย

ตอนนี้เขาหมดตัวแล้ว ทั้งยังมีห นี้ สิน ไร้เพื่อน ไร้ลูก

เขาถึงได้ฟังธรรมะ เข้าวัดเป็น รู้จักการให้ทาน และตอนนี้

เขาห่วงแค่เมียของเขา ภาวนาให้เมียจากไปก่อน เพราะ

ไม่อยากเห็นเมียต้องมาลำบาก

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว… ไม่ต้องถาม ไม่ต้องอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร

ร้านอยู่แถวไหน เขาแค่อยากเก็บเรื่องราวมาให้อ่านไว้เพื่อ

เป็นข้อคิดไว้เตือนใจ..

ไม่มีคำว่าย าก สำหรับคนขยัน

ไม่มีการปลงต ก ถ้าไม่เคยสูงสุด แล้วมาจุดต่ำสุด

Load More Related Articles
Load More By kondee
Load More In ข้อคิดเตือนใจ

Check Also

ขอฝากถึงลูกๆทุกคน เมื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ต้องเดินทางไกล

ลองคิดดูนะว่า…การที่เราได้เกิดมาลืมต าดูโลกนั้น ค … …