ทางผู้ชายมีเงิน 150,000 ทางผู้หญิงมีเงิน 100,000 ก่อนที่ทั้งคู่ตกลงจะแต่งงานกัน
ฝั่งผู้ชายได้นำเงินจำนวน 150,000 บาท ไปดาวน์บ้าน ส่วนผู้หญิงก็นำเงินจำนวน 100,000 บาท
เพื่อไปใช้ในการตกแต่งบ้านและซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง และเครื่องใช้ต่างๆ พอหลังจากแต่งงานกัน
ทางฝ่ายชายเป็นคนผ่อนค่างวดบ้าน จำนวน 3,000 หยวนในทุกๆเดือน เงินเดือนคงเหลือประมาณ
1,000 หยวน ส่วนผู้หญิงได้เงินเดือน เดือนละ 3,000หยวน ทั้งคู่ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน
พอสามปีต่อมา… ผู้หญิงเธอตั้งครรค์ หลังจากเธอคลอดลูกออกมา สามีเธอได้เลื่อนตำแหน่งใหม่
ในที่ทำงาน ได้เงินเดือนเพิ่มเป็น 7,000 หยวน ณ ตอนนี้ เด็ กก็ต้องการมีคนดูแล ถ้าหากว่าไป
จ้างพี่เลี้ยงเพื่อมาดูแล ก็ต้องจ่ายให้เขาเดือนละ 2,000 หยวน ทั้งคู่ได้ปรึกษากัน จนได้ข้อตกลงว่า
ตัดสินใจให้ภรรย าลาออกจากงานประจำเพื่อมาอยู่ดูแลลูก ผู้หญิงจึงได้กลายเป็นแม่บ้านอย่ างเต็มตัว
พอสิบปีต่อมา…สามีเธอประสบความสำเร็จ การงานก้าวหน้าขึ้นมากกว่าเดิม รัศมีเปล่งปลั่งแพรวพราว
ส่วนภรรย าของเธอเวลาทั้งชีวิต เธอคลุกคลีอยู่กับลูก สามี และบ้าน เป็นแบบนี้ไปทุกๆวัน ทำให้เธอ
ดูหม่นหมอง ไม่มีราศี ณ เวลานี้ ผู้ชายจึงรู้สึกว่าไม่กล้าพาภรรย าของตนเข้าสังคมด้วยอีกแล้ว
และสิ่งยั่วยุต่างๆจากภายนอกก็ช่างยั่วยวนใจเหลือเกิน สุดท้ายผู้ชายแอบไปมีผู้หญิงอีกคน หลังจากที่
ภรรย าเธอรู้เรื่องเข้าก็อ าล ะว าด เกิดทะเ ลาะวิวาทกัน ต่างคนต่างเศร้าโศกเสี ยใจ สุดท้ายทั้งคู่ก็ตกลง
ที่จะหย่ ากัน ตามคำอธิบายในตัวกฎหมาย ว่าด้วยเรื่องการสมรสนั้น “ บ้าน ” ทางผู้ชายได้ซื้อก่อนแต่งงานกัน
ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ในส่วนนี้ แต่ผู้หญิงเธอไม่ยอม เธอบอกว่า “ พวกเราทั้งสองช่วยกันผ่อนค่างวดบ้าน ”
ทนายจึงถามว่า “ เธอมีหลักฐานที่เธอช่วยกันผ่อนส่งค่างวดบ้านหรือไม่? ”
ผู้หญิงจึงตอบว่า “ ไม่มี เพราะในทุกๆเดือนจะหักจากบัญชีเงินเดือนของสามีเธอโดยตรง ”
และผู้หญิงบอกอีกว่า “ ส่วนลูก..ฉันเป็นคนคลอดเขาเอง ฉันเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่มากับมือ ลูกต้องตกเป็นของฉัน ”
ทนายจึงพูดว่า “ ลูก..จะตกเป็นของใครนั้น เราจะดูว่าใครมีความสามารถที่จะเอื้อประโยชน์ให้แก่เด็กได้มากที่สุด ”
เธอ..ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ ไม่มีบ้านย่อมไม่เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ทางศาลจะตัดสินให้ตกเป็นของผู้ชาย ”
ณ ตอนนี้ ผู้หญิง…เธอไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีลูก เธอสิ้นหวังแล้ว โลกของเธอมันได้ล่มสลายไปแล้ว
ส่วนทางผู้ชาย ก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ผู้หญิงเธอยังกล้าที่จะนำเอาความสุขของตัวเองทั้งชีวิต
ไปฝากไว้กับคนอื่นอีกหรือหรอ ? บนโลกใบนี้ไม่มีใครให้คุณพึ่งพิงได้ตลอดชีวิตหรอกนะ แม้แต่เงาของเธอเอง
ก็จะค่อยๆจางหายไปจากเธอเหมือนกัน แรกเริ่มมันก็ใช่อยู่แล้วที่ผู้ชายจะรักเธอมาก แต่ผู้หญิงโดยส่วนใหญ่แล้ว
มักจะชอบมองข้ามสิ่งสำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ “ คุณค่าของคน ” ขอเพียงเรายังมีชีวิตอยู่ ล้วนที่มันจะแปรเปลี่ยนไป
ได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ผู้หญิงที่มีอาชีพ มีความอิสระเป็นของตัวเอง จึงจะสามารถดำเนินชีวิตได้ตามแบบฉบับของตนเอง
และสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิตคู่ได้ เพราะทุกๆคนล้วนชื่นชอบชื่นชมสิ่งที่สวยงามกันทั้งนั้น ใครจะไปยอมทนอยู่
กับคนที่ไม่แต่งหน้าแต่งตา ไม่ดูแล เกียจคร้าน ไม่พัฒนาตนเองให้ดูดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ดูโทรมอยู่ตลอด
สาวๆเอ๋ย…จงดีกับตัวเองให้มากๆ ทะนุถนอมตัวเองหน่อยเถิด “ ต้องสูงส่งถึงจะล้ำค่า ”
คิดอย ากจะเป็นผู้หญิงที่แกร่ง รูปลักษณ์ของผู้หญิงเอง ที่เป็นตัวตัดสินกำหนดว่ามัน “ สำเร็จ หรือ ล้มเหลว ”
